กระทรวงพลังงานลงนามประกาศเชิญชวนการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งแรกรอบ 15 ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศจากเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม คาดเม็ดเงินลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท หากสำรวจพบปิโตรเลียม
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้ลงนามในประกาศเชิญชวนการเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 บริเวณทะเลอ่าวไทย จำนวน 3 แปลง ประกอบด้วยแปลง G1/65 G2/65 และ G3/65 บริเวณทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวท่อก๊าซที่มีอยู่เดิมและอยู่ใกล้กับพื้นที่ผลิตหลัก ที่ปัจจุบันมีการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่อไปได้ ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต
คาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ได้รับสิทธิฯ ได้ภายในปี 65 และจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศทั้งในด้านการจ้างงานภายในประเทศ สร้างรายได้เข้ารัฐ และเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นกว่า 1,500 ล้านบาท หากสำรวจพบปิโตรเลียม
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ ดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสากล ที่โปร่งใส ซึ่งภายหลังจากการลงนามประกาศเชิญชวนฯ ในวันนี้ (8 เมษายน) แล้ว จะประชาสัมพันธ์ให้บริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียมที่สนใจเข้าร่วมการประมูลและมีการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนผ่านทางเว็บไซต์กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยบริษัทที่สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศเชิญชวนและเงื่อนไขต่าง ๆ ได้จากทั่วโลก
พร้อมทั้งเปิดห้อง Data room ให้บริษัทต่าง ๆ เข้าศึกษาข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอการยื่นของสิทธิฯต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อพิจารณาคัดเลือกและนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะดำเนินการประกาศผลผู้ชนะ และได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต่อไป
สำหรับการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่จะต่อยอดให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้านบาทหากมีการสำรวจพบปิโตรเลียม นอกจากนั้น ยังสามารถสร้างผลประโยชน์ให้รัฐในรูปค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และ ส่วนแบ่งกำไร ตลอดจนก่อให้เกิดการจ้างงานพนักงานคนไทย เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศอีกครั้ง หลังจากที่การเปิดให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศหยุดชะงักมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว
นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน การสร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้คนไทย รวมถึงการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้กับธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ อีกจำนวนมาก อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแท่นผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รวมถึงภาคขนส่งอีกด้วย นอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งจากการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ ในครั้งนี้ ประเทศจะมีทรัพยากรปิโตรเลียมเพื่อลดการนำเข้า สร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง