โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ สั่งตร.เร่งสางปัญหาอาวุธปืน หวังสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ขณะที่ตำรวจออกมาตรการเข้มข้นตรวจค้นบรรดากลุ่มเสี่ยงก่อเหตุ
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าปัจจุบันมักมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอาชญากรรมสะเทือนขวัญ สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน และสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายกรัฐมนตรีตระหนักถึงปัญหานี้ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ จึงสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเร่งปราบปราม กวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยในการแจ้งเบาะแส อาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด ผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 191 และสายด่วน 1599 หรือหมายเลขโทรศัพท์ตำรวจประสานงานชุมชน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันทุกภาคส่วนป้องกันและแก้ปัญหาความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างจริงจัง ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน สร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติแล้ว โดยมีมาตรการสำคัญในการปราบปรามอาวุธปืนที่จะเน้นกรณีผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม ต้องสืบสวนติดตามพฤติกรรมในเชิงลึก สามารถแจ้งให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตได้ อีกทั้งจะมีการตรวจค้นกลุ่มเสี่ยง อาทิ กลุ่มวัยรุ่น เด็กแว้นที่มีพฤติกรรมชอบพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ผู้ที่ชอบยิงปืน นักเลงอันธพาลที่มีพฤติกรรมก่อความเดือดร้อน รําคาญ บุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตามผู้มีอิทธิพล ผู้ประมูลรับเหมางานรายใหญ่ และบุคคลที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ผู้ติดตามทวงหนี้ บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน หรือความผิดอื่นโดยใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด ผู้ที่มีพฤติกรรม หรือลักลอบผลิต จําหน่าย หรือขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ต ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตและผู้จําหน่ายรายใหญ่ รวมถึงผู้ที่มีประวัติถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำซาก
นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังจะมีการตรวจค้นจับกุมแหล่งค้า ผลิต ซุกซ่อนอาวุธที่ผิดกฎหมาย แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม สถานบริการ กำหนดจุดตรวจ จุดสกัด และตั้งด่านตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ สกัดกั้นการลักลอบขนส่งอาวุธที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำ สุ่มตรวจ ค้นสัมภาระรถโดยสารสาธารณะ สกัดกั้นการลักลอบซื้อขาย นําเข้า และส่งออกอาวุธผิดกฎหมายตามแนวชายแดน การปราบปรามการค้าอาวุธข้ามชาติ อีกทั้งขณะนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการในเรื่องนี้ ทั้งในระดับสถานี กองบังคับการ และกองบัญชาการ เพื่อบริหารจัดการคดีไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน วางระบบการประสานงาน และส่งต่อข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขันควบคุมการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
