ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติเผยเตรียมของบประมาณซื้อวัคซีนกันโควิดสูตรป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์อู่ฮั่น มาเป็นบู๊สเตอร์โดสปี 66
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจัดหาวัคซีน บู๊สเตอร์ป้องกันโรคโควิด 19 ในปี 2566 นั้น เป็นไปตามแผนดำเนินการของกรมควบคุมโรค ปัจจุบันมีอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีบางส่วนที่ต้องมีการจัดซื้อเพิ่ม ซึ่งต้องดูตามสถานการณ์
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และติดตามวัคซีนสูตรใหม่ ที่เป็นวัคซีนรวม 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์อู่ฮั่น ของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ที่มีการใช้อยู่ในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่งข้อจำกัดของการผลิตวัคซีนที่ผ่านๆ มา จะไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ แต่ตอนนี้รุ่นอู่ฮั่นก็ถือว่าได้ผล มีรายงานว่าไม่แตกต่างกัน สามารถลดอาการรุนแรงของโรค และลดการเสียชีวิตได้
เมื่อถามว่าวัคซีนรุ่น 2 สายพันธุ์ หากได้ข้อสรุปจะต้องเป็นงบประมาณตั้งใหม่ หรือใช้หลักการเปลี่ยนแปลงสัญญาการจัดซื้อวัคซีนรุ่นเดิมได้เลย นพ.นคร กล่าวว่า เป็นงบประมาณตั้งใหม่ เพราะวัคซีนสูตรเดิมที่มีการทำสัญญาซื้อกันนั้น อย่างของไฟเซอร์ก็หมดแล้ว ไม่มีวัคซีนต้องส่งมอบแล้ว แต่กรณีวัคซีนรุ่นใหม่อาจจะมีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการติดตาม และประชาชนไม่ต้องรอเพื่อรับวัคซีนตัวนั้นตัวนี้ หรือรอวัคซีนรุ่นใหม่ เพราะวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนที่เตรียมไว้สำหรับฉีดให้ประชาชนอย่างเพียงพอ ขอให้ประชาชนมารับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันลดการป่วยหนัก ลดการเสียชีวิต เพราะทุกวันนี้เรายังมีรายงานคนเสียชีวิตอยู่ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ฉีดไม่ครบ
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้วัคซีนที่ฉีดกันอย่างแพร่หลายทุกชนิด ทุกยี่ห้อ มีวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะปกติแล้วหรือไม่ นพ.นคร กล่าวว่า ในประเทศไทยยังไม่มี วัคซีนทุกตัวเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉินทั้งหมด ส่วนระดับโลก ก็มีเพียงวัคซีนไฟเซอร์ที่มีการขอขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะปกติในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ยังคงเป็นการขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉิน จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามเรื่องของความปลอดภัยต่อไป อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ จากข้อมูลที่มีการฉีดในไทยมากกว่า 100 ล้านโดส ทั่วโลกกว่าหมื่นล้านโดส ในแง่ของความปลอดภัย ตอนแรกๆ ที่เรากังวลเรื่องของลิ่มเลือดอุดตันหัวใจอักเสบก็พบน้อยหรือไม่พบ