“ศิริกัญญา” ผิดหวังกสทช.ไม่ทำตามอำนาจ แค่รับทราบควบรวม “ทรู-ดีแทค” ชี้จะสร้างบรรทัดฐานไม่ดีทางกฎหมายในอนาคต ลั่นเดินหน้าค้านต่อ แนะแก้กม.กสทช. จ่อฟ้องม.157 ทั้งคณะ
วันที่ 21 ต.ค.65 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลการประชุมของกสทช.ในการควบรวมกิจการของดีแทคและทรู ว่า เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ แต่ยังคงผิดหวังเป็นอย่างมากเพราะคาดหวังไว้ว่ากสทช. จะใช้อำนาจของตนเองอย่างเต็มที่ มติครั้งนี้ไม่ได้อนุญาติให้ควบรวม แต่เป็นการรับทราบที่จะควบรวม โดยมีเสียงลงมติ 3:2 ซึ่งเสียงข้างมากบอกว่าตนเองไม่ได้มีอำนาจอนุญาตให้ควบรวม เพียงแต่รับทราบเท่านั้น แสดงว่ากสทช.มองว่า True และ Dtac ไม่ใช่กิจการประเภทเดียวกัน ทั้งๆที่ขัดกับสายตาคนทั้งประเทศ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขออนุญาตที่จะควบรวม และต้องออกมาตรการเฉพาะหรือเงื่อนไขในภายหลัง เรื่องนี้จึงเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีต่อกฎหมายกำกับดูแลประเทศนี้ ถ้าในอนาคต AIS และ 3BB จะควบรวมกัน จำเป็นจะต้องขออนุญาตต่อหรือไม่ และจะนับเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันหรือไม่
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้าง และการควบคุมราคา สิ่งที่จำเป็นที่จะต้องมีคือเชิงโครงสร้าง เช่น การขายลูกค้าให้กับเจ้าอื่น หรือขายคลื่นเกินจำนวนที่ทาง กสทช.ได้กำหนดไว้ หรือใช้เสาสัญญาณร่วม ทำให้เกิดผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้น กรณีนี้ต้องกันคลื่นไว้เพื่อให้สัมปทานกันรายใหม่ ซึ่งมาตราการเฉพาะที่ออกมาขณะนี้ยังไม่เพียงพอ ที่จะกู้คืนสภาพการแข่งขันที่เคยมี 3 เจ้าหลังจากนี้ ตนมองว่าจะต้องทบทวนกฎหมายว่าด้วยที่มาของ กสทช.ซึ่งจำเป็นที่จะต้องทำให้กสทช.ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ,แก้ไขประกาศต่างๆที่ออกมาภายหลัง และแก้ไขบทบาทอำนาจของตนเองใหม่ให้สามารถอนุญาติการควบรวมกิจการได้
“ดิฉันจะยื่นคัดค้านเรื่องนี้ต่อไป เพราะกสทช.ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองอย่างที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด และจะฟ้องตามมาตรา157 ทั้งคณะ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่ากสทช.ปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ หากผิดจริง การตัดสินครั้งนี้อาจเป็นโมฆะได้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลที่สามารถมีบทบาทแทรกแซงเรื่องนี้ได้ แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย จนอดคิดไม่ได้ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่”น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
