‘ทิพานัน’ ซัดฝ่ายค้านบิดเบือนข้อมูลคนจนพุ่ง แจงยอดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ 22 ล้านคนไม่ใช่จำนวนคนจนจริงๆแต่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องการเข้าไปช่วยดูแลลดความเหลื่อมล้ำ
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ปิดรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565แล้ว โดยมีประชาชนลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.-31 ต.ค. 2565 จำนวน 22,293,473 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ย. 2565 เวลา 15.00 น.) ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วและผ่านขั้นตอนตรวจสอบสถานะแล้ว พบว่าสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ขอให้รอการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติในช่วงเดือนม.ค. 2566 ส่วนผู้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ ซึ่งต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 พ.ย. 2565 นี้เท่านั้น
ต้องขอย้ำว่า จำนวนลงทะเบียนหรือผู้ที่ได้รับ “บัตรสวัสดิการ” ไม่ใช่จำนวนคนจนในประเทศไทย แต่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องการเข้าไปช่วยดูแลลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางให้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในนโยบายในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นวาระสำคัญของชาติ” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่มีการวิเคราะห์หลายมิติซึ่งในปี 2564 ระบุว่าประเทศไทยมีคนจนอยู่ที่4,404,616 ล้านคน คิดเป็น 6.32 % ของประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้ เกณฑ์ตัดสินว่าบุคคลนั้นเข้าข่ายจนหรือไม่จนในปี 2564 คือรายได้ต่อเดือนที่ต้องได้ต่ำกว่า 2,802 บาทต่อคนต่อเดือนและหากพิจารณาข้อมูลย้อนไป10 ปีจากสถิติ ยังพบว่า ในปี 2555 ยังมีคนจนอยู่ถึง 8,441,462 คน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่าในปี 2560 พบมีคนจน 1,702,499 คน จากการสำรวจ 35,999,061 คนและล่าสุด “คนจนเป้าหมาย” ณ วันที่ 25 ม.ค. 2565 ในประเทศไทย ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนเหลือเพียง 1,025,782 คน จากการสำรวจ 36,103,806 คน
ดังนั้นจากยอดการลงทะเบียน 22,293,473 ราย ที่ยื่นลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี2565 จึงไม่ใช่จำนวนคนจนทั้งหมด แต่ด้วยเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้คนที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีหรือแม้แต่ผู้มีบ้าน มีวงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และมีเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แต่หากรัฐบาลเลือกใช้เส้นความยากจนเป็นเกณฑ์ กำหนดรายได้33,624 บาทต่อคนต่อปี หรือ 2,802 บาทต่อคน/ต่อเดือน จะทำให้การลงทะเบียนมีจำนวนลดลงทันที
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า แต่สิ่งฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยต้องพึ่งระวังคือ หยุดด้อยค่าประชาชนจากสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ หยุดดูถูกประชาชนที่ต้องการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายหยุดตราหน้าประชาชนที่ลงทะเบียนว่าเป็นคนจน ต้องเลิกบิดเบือนข้อมูลที่ศึกษามาไม่ครบถ้วนไม่ถูกต้องแล้วนำไปสร้างวาทะกรรมคนจนเพิ่มขึ้น จนสังคมและประชาชน22,293,473 คนที่ลงทะเบียนสงสัยในความชัดเจนว่า ฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยต้องการยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ประกาศให้ชัดไปเลย