สธ.รับฟังข้อกังวลก่อนออกประกาศคุมเข้มช่อดอกกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการผลิตอุตสาหกรรม ยันเพิ่มความเข้มงวดควบคุมห้ามจำหน่ายให้กับกลุ่มเปราะบาง ชี้มีผลบังคับหลังวันประกาศ
วันที่ 12 พ.ย.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยเป็นการปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 16 มิ.ย.65 มีสาระสำคัญในการควบคุมการใช้ประโยชน์จากส่วนของช่อดอกกัญชาไม่ให้มีการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร
“ก่อนที่รองนายกฯและรมว.สาธารณสุขจะลงนาม ประกาศฉบับใหม่นี้ได้ผ่านการเห็นชอบของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งได้รับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชน ซึ่งได้แสดงความกังวลต่อกรณีที่อาจมีการนำช่อดอกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงควรปรับปรุงข้อกฎหมายให้มีความชัดเจน เข้มงวดยิ่งขึ้น คุ้มครองกลุ่มเปราะบาง ขณะเดียวกันประชาชนยังสามารถใช้ประโยชน์กัญชาในการดูแลสุขภาพได้กัญชายังคงได้รับการส่งเสริมให้เป็นพืชสำคัญทางการแพทย์และการผลิตในภาคอุตสาหกรรม”น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประกาศฉบับใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษานี้ กำหนดให้ส่วนของช่อดอกกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม ผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออกจำหน่าย หรือแปรรูปเพื่อการค้า จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 46 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 โดยผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้ ณ สถานประกอบการ และให้รายงานข้อมูลต่อนายทะเบียนตามแบบที่อธิบดีกำหนดด้วย ในส่วนของผู้รับใบอนุญาตให้ส่งออก ต้องแจ้งรายละเอียดการส่งออกต่อผู้อนุญาตเป็นรายครั้ง โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตเพื่อศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปเพื่อการค้า ตามมาตรา 46 อยู่ก่อนประกาศฉบับใหม่จะมีผลบังคับจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศฉบับใหม่ด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประกาศฉบับใหม่ยังได้เพิ่มความเข้มงวดเพื่อควบคุมการจำหน่ายช่อดอกของกัญชาโดยห้ามจำหน่ายให้กับกลุ่มเปราะบางได้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตรนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา ห้ามจำหน่ายในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรองตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนและผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
รวมถึงห้ามจำหน่ายผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ห้ามโฆษณาทุกช่องทางเพื่อการค้า ที่สำคัญยังห้ามจำหน่ายในวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพีธีกรรมทางศาสนา, หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก, สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุกด้วย