วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightสั่งผอ.เขตฯดำเนินคดีโรงแรม ปล่อยจัดปาร์ตี้จนติดโควิด-19
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สั่งผอ.เขตฯดำเนินคดีโรงแรม ปล่อยจัดปาร์ตี้จนติดโควิด-19

“ผอ.สำนักอนามัย กทม.” สั่ง “ผอ.เขต” ดำเนินคดี 2 โรงแรมที่ปล่อยให้จัดปาร์ตี้วันเกิด จนเกิด “คลัสเตอร์” ระบาด ย้ำ “ผอ.เขต” มีอำนาจสั่งปิดได้เลย ถ้าพบว่ากระทำผิด ส่วนผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถ้ายินยอมเปิดเผยไทม์ไลน์ที่ถูกต้องจะไม่โดนดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับ The Key News ถึงกรณีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ส่งหนังสือให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เร่งดำเนินคดีกับ กลุ่มบุคคล รวมถึงเจ้าของสถานที่ ที่ปล่อยให้จัดงานปาร์ตี้วันเกิด จนทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ฐานการกระทำผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯว่า ยังไม่เห็นหนังสือจากกรมควบคุมโรค แต่ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ “สาธารณสุข กทม.” เชิญตัวผู้เกี่ยวข้อง คนใกล้ชิด กลุ่มเสี่ยง มาสอบสวนโรคเพิ่มเติมแล้ว ส่วนกรณีสถานบันเทิง โรงแรม เปิดเกินเวลาและมีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องมีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งได้สั่งการให้ “ผู้อำนวยการเขต” ไปดำเนินคดีกับโรงแรม เพราะ “ผอ.เขต” มีอำนาจสั่งปิดโรงแรม ร้าน ปิดสถานบันเทิง ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงวันเกิด “ดีเจมะตูม” ถ้ายินยอมเปิดเผยไทม์ไลน์ จะไม่ถูกดำเนินคดีในกรณีปกปิดข้อมูล แต่ยังมีกรณีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ต้องสอบสวนต่อไป

“ขณะนี้ สาธารณสุข กทม. เข้าสอบสวนโรคเพิ่มเติมแล้ว รวมทั้ง ผอ.เขต ต้องเร่งดำเนินคดีกับสถานที่เปิดเกินเวลา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผอ.เขตสามารถดำเนินคดี สั่งปิดร้าน ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เมื่อเปิดไทมไลน์ครบถ้วนแล้ว จะไม่ดำเนินคดี”นพ.ชวินทร์ กล่าว

สำหรับโรงแรมที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบและดำเนินคดีคือ โรงแรมบันยันทรี (เขตสาทร) ที่ปล่อยให้ “ดีเจมะตูม” จัดงานวันเกิด บนชั้นดาดฟ้า ที่มีลักษณะเป็นผับ ขณะที่ โรงแรมเรเนซองส์ (เขตปทุมวัน) นั้น ก็ปล่อยให้มีการจัดปาร์ตี้วันเกิด ซึ่งทำให้ผู้ประกาศข่าวทาง NBT ไปร่วมงาน และเกิดการติดโควิดเช่นกัน

ดีเจมะตูม จัดปาร์ตี้วันเกิดที่รร.บันยันทรี

วันเดียวกัน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์รายการ “กวนข่าว กวนคน” ทางคลื่น FM 102.5 MHz ถึงประเด็นงานเลี้ยงวันเกิดของ “ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร” จนเจ้าตัวติดเชื้อโควิด-19 และทำให้เกิดกลุ่มเสี่ยงจำนวนมากจากผู้ร่วมงานเลี้ยงว่า ในหลักการใครติดเชื้อ ต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็วที่สุด ผู้ติดเชื้อแยกไว้โรงพยาบาล ส่วนผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ต้องแยกไปอยู่ในสถานที่กักโรคที่กำหนดไว้เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อคนอื่น สำหรับกรณี “ดีเจมะตูม” และผู้เกี่ยวข้อง เป็นหน้าที่ของ “กรุงเทพมหานคร” ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักคือ สำนักอนามัยกรุงเทพ กองควบคุมโรคติดต่อ เพื่อสอบสวนโรค บางกรณีใช้โทรศัพท์สอบสวนโรค หรือบางกรณีลงพื้นที่ไปสอบสวนโรค ส่วนกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยสนับสนุน ร่วมกับกรุงเทพฯสอบสวน โดยสถาบันควบคุมโรค ทำหน้าที่ร่วมกัน

“กลุ่มดีเจมะตูม กองควบคุมโรค กรุงเทพฯ จะเป็นหลักดำเนินการสอบสวน ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเรื่องห้องปฏิบัติการ และสนับสนุนข้อมูล ทั้งนี้การใช้กฏหมายดำเนินคดีกับกลุ่มนี้ที่ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจำพื้นที่ เบื้องต้นกรมควบคุมโรค ประสานสำนักอนามัย ไปหาข้อเท็จจริง โดยทางเราจะไปร่วมกับกรุงเทพ ดำเนินการร่วมกัน นำคนติดเชื้อแยกมาก่อนรักษาให้หายก่อน เรื่องคดีค่อยมาว่ากัน ถ้ามีเรื่องปกปิดข้อมูล โดยเจตนา ก็ว่าไปตามกฏหมาย”นพ.วิชาญ กล่าว

ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวว่า ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย เวลาสอบสวนโรคบางครั้งการสัมภาษณ์ บางทีจำได้บ้าง-จำไม่ได้บ้าง สิ่งที่เราทำพยายามในการสัมภาษณ์ ต้องซักถามซ้ำ ๆ หลายรอบ เพื่อมั่นใจให้ได้ข้อมูลถูกต้อง เพราะไม่ได้ดูเป็นรายบุคคล จะดูเป็นกลุ่ม ให้สอดคล้องกัน ทั้งกิจกรรม และช่วงเวลา ส่วนผู้ที่ไปสถานที่ใด ควรสแกนแอพฯ “ไทยชนะ” เพื่อให้ข้อมูล รวมทั้งแอพฯ “หมอชนะ” เพื่อนำมาใช้สอบสวน

“กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเป็นมาตรฐาน เกิดการติดเชื้อสถานที่ไหน จุดไหนมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ก็เร่งเข้าสู่การรักษา ทั้งการระบาดสองรอบ การประเมินสถานการณ์ไม่ได้หย่อนไปกว่าเดิม แต่รอบนี้คนไม่แสดงอาการ แต่มีเชื้อในร่างกาย ทำให้การควบคุมอาจนานกว่ารอบแรก ซึ่งการไม่สวมหน้ากากอนามัย มีความผิด เป็นอำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทางกรุงเทพ มีหน้าที่ควบคุมสูงสุดตามพ.ร.ก. ที่จะต้องดำเนินการมาตรการทางกฏหมาย โดย ศบค. เปิดสายด่วนร้องเรียน แจ้งได้พบเจอล้อมวงทานเหล้า กินเลี้ยง โดยหลักการควบคุมโรคเป็นความร่วมมือ แทพย์ทำคนเดียวไม่ได้ มาตรการสาธารณสุข เราทำเต็มที่ ที่สำคัญคือมาตรการสังคม ที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน”นพ.วิชาญ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img