วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSเตือน ปชช.ภาคเหนือ อีสาน กลาง ปริมณฑ รับมือพายุฤดูร้อน 1-4 มี.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เตือน ปชช.ภาคเหนือ อีสาน กลาง ปริมณฑ รับมือพายุฤดูร้อน 1-4 มี.ค.นี้

กอปภ.ก.ประสานจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กทม. และปริมณฑล เฝ้าระวังและเตรียมรับมือพายุฤดูร้อน ช่วงวันที่ 1 – 4 มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 1มี.ค.กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือฤดูร้อน

โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า ในช่วงวันที่ 1 – 4 มี.ค. 64 โดยให้จังหวัดและศูนย์ ปภ. เขตในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศและแนวโน้มสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

นายบุญธรรม  เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลาง กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้ติดตามสภาพอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 1 (37/2564) ลงวันที่ 28 ก.พ. 2564 แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 1 – 4 มี.ค. 2564 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระ โชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า กอปภ.ก. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตลอดจนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า 

โดยจะเริ่มมีผลกระทบในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ในวันที่ 1 – 3 มี.ค. 2564 ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีผลกระทบในวันที่ 2 – 4 มี.ค. 2564 ซึ่ง กอปภ.ก ได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณ ภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที 

อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ห้ามหลบพายุบริเวณใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรงเพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ ไม่อยู่ในที่โล่งแจ้งขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะอาจถูกฟ้าผ่าได้ ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img