วันพุธ, เมษายน 2, 2025
spot_img
หน้าแรกNEWS''HK.3''ลูกหลานโอมิครอนไม่ใช่โควิดสายพันธุ์ใหม่ ในไทยพบติดเชื้อ 2 ราย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”HK.3”ลูกหลานโอมิครอนไม่ใช่โควิดสายพันธุ์ใหม่ ในไทยพบติดเชื้อ 2 ราย

กรมวิทย์ฯ ยัน HK.3 ไม่ใช่โควิดสายพันธุ์ใหม่ ระบุเป็นลูกหลานโอมิครอน ในไทยพบติดเชื้อ 2 ราย อาการไม่รุนแรง รักษาหายแล้ว ขออย่าด่วนสรุปการแพร่เร็ว 95% ส่วนการตรวจเจอเชื้อ BA.2.86 ในน้ำ นักวิทยาศาสตร์ ย้ำไม่อาจฟันธง เหตุไม่ได้เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 66 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิดในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ประชาชนมีการใช้ชีวิตแทบจะเป็นปกติ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ยังมีการติดตามข้อมูล โดยองค์การอนามัยโลกยังจัดชั้นโอมิครอนเหมือนเดิมโดยกลุ่มที่น่าสนใจ (VOI) มี 3 ตัวคือ XBB.1.5 , XBB.1.16 ซึ่งจำนวนการระบาดค่อนข้างเยอะ และ EG.5 ซึ่งเป็นน้องใหม่มาสักพัก การเพิ่มขึ้นคาดว่าจะเบียดตัวอื่นในอนาคตอันใกล้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในรอบ 2 สัปดาห์เจอแล้ว 23 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตามตัวที่ยังเป็นหลักคือ xbb.1.16 ส่วนสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง VUM มี 7 สายพันธุ์ ซึ่งตัวเดิม คือ BA.2.75, BA.2.86, CH.1.1, XBB, XBB.1.9.1 XBB.1.9.2 และ XBB.2.3

สำหรับสายพันธุ์ที่เป็นข่าวตอนนี้ คือ HK.3 คือ คือ EG.5.1.1.3 ลูกหลานของสายพันธุ์โอมิคอน ไม่ใช่ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่โผล่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย วันนี้ที่มีรายงานเข้า GSAID 127 ตัวอย่าง จาก 12 ประเทศ โดยในประเทศไทยเจอ 2 ราย เป็นครอบครัวเดียวกันอายุ 65 และ 11 ปี สบายดีไม่มีปัญหาอาการหนักอะไรขณะนี้หายดีแล้ว ดังนั้นข่าวที่บอกว่าเจอ 3 ราย นั้นเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อน คนที่บอกว่า 3 ราย เพราะไปดูการเปลี่ยนแปลงการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งไหน แล้วมาสรุปเองว่าเป็นตัวเดียวกัน และถือว่าหรือว่าคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม จุดเด่น HK.3 คือมีการเปลี่ยนที่ตำแหน่ง 455 จาก L เป็น F บางส่วนเปลี่ยนจาก F เป็น L ตอนนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าจะทำให้การแพร่เชื้อเร็วหรือไม่ หลบภูมิดีกว่าหรือไม่ จับกับเซลล์ผู้ป่วยได้มากขึ้นหรือไม่ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามข้อมูลต่อไป เพราะการก็สันนิษฐานแบบนี้อาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป เพราะมีหลายอันที่สันนิษฐาน แบบนี้แต่ก็ไม่มีอะไรแล้วหายไป

“มีคนพยายามมองว่าภาพรวมของโลกว่า HK.3 จะแพร่เร็ว 66% ส่วนในไทยจะแพร่เร็วกว่าเดิม 95% ทั้งที่มีจำนวน 2 ราย ซึ่งไม่น่าสรุปได้ ขณะนี้พวกเราที่เรียนสถิติคงจะรู้ว่าจำนวนที่เอามาดูนั้นน้อย ไม่มากพอที่จะไม่มีนัยยะสำคัญอะไร ต้องดูต่อไปว่า จะเร็วจริงหรือไม่ ถ้าเร็วจริงก็จะเบียดตัวอื่นออกไป แต่จะบอกว่าระบาดเร็วตัวอื่น 95% คิดว่าสรุปแบบนั้นเป็นข้อสรุปที่เร็วไปหน่อย” นพ.ศุภกิจ

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า ส่วนสายพันธุ์ BA.2.86 ที่มีนักวิทยาศาสตร์ส่งเก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งต่างๆในประเทศไทย เพื่อตรวจหาพันธุกรรมโควิดในนั้นตำแหน่งต่างๆ นั้น ในส่วนของทั่วโลกมีการรายงายสายพันธุ์ BA.2.86 ไปยัง GSAID 21 ราย แต่ในประเทศไทยที่บอกว่ามีเชื้อนี้นั้น จริงๆ เจอในน้ำ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์หลายท่านแล้วบอกว่าอาจจะสรุปแบบนั้นไม่ได้ เพราะการที่ไม่ได้ตรวจจากผู้ป่วยตัวเป็นๆ แต่นำมาจากน้ำที่ไม่รู้ว่ามาจากของใครบ้าง อีกทั้งยังมีสารพันธุกรรมบางอย่างที่คล้ายกับไวรัสตัวนี้ และมาบอกว่าเป็นไวรัสตัวนี้ นอกจากเป็นข้อสรุปที่ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ ในไทยยังไม่มีผู้ป่วย และในส่วนของอิทธิฤทธิเดชก็ยังไม่เจอว่าไม่มีอะไร

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img