‘ศุภณัฐ’ชี้คำชี้แจง บขส.ไม่สะท้อนสภาพความเป็นจริงใน’หมอชิต 2’ ย้ำจากการลงพื้นที่ ยังคงพบสารพัดปัญหาที่ประชาชนต้องเผชิญ
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.จากกรณีที่บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ทำหนังสือชี้แจงข้อท้วงติงของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับปัญหาภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ “หมอชิต 2” ที่เสื่อมโทรมและไม่พร้อมให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดย บขส.ยืนยันว่า ลิฟต์ เครื่องปรับอากาศ และจุดดับเพลิงในสถานีขนส่งหมอชิต 2 ใช้งานได้ทุกจุด ยกเว้นบันไดเลื่อนที่มีอายุกว่า 26 ปีกำลังขาดแคลนอะไหล่ซ่อมแซม
ขณะที่ห้องให้นมบุตรและห้องปฐมพยาบาลก็เปิดให้บริการตลอด เพียงแต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าใช้งาน เพื่อป้องกันอาชญากรรม ส่วนพื้นที่ทิ้งร้าง ขณะนี้ บขส.กำลังจะปรับปรุงเป็นศูนย์การเดินทางแห่งใหม่ (Transportation Hub) ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำผังและแบบการพัฒนาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ขณะที่ปัญหาแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์ผิดกฎหมายก็ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและบังคับใช้กฎหมายแล้ว
นายศุภณัฐ กล่าวว่า คำชี้แจงของ บขส.ไม่สะท้อนสภาพความเป็นจริงของหมอชิต 2 ที่พี่น้องประชาชนต้องเผชิญอยู่ทุกวัน เช่น จากการลงพื้นที่เมื่อคืนนี้ ตนก็ยังคงพบว่าจุดดับเพลิงบริเวณชั้น 3 ไม่มีถังดับเพลิง ส่วนเครื่องปรับอากาศที่ชี้แจงว่ามีนั้น ก็มีเฉพาะในอาคารขายตั๋วโดยสาร แต่ที่ชานชาลาขึ้นรถซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนไปนั่งรอกันอย่างแออัด จนต้องนั่งบนฟุตบาท กลับไม่มี ในส่วนของบันไดเลื่อนที่ บขส.ชี้แจงว่ามีอายุมาก และไม่มีอะไหล่มาซ่อมแซมนั้น บันไดเลื่อนที่หมอชิต 2 เสียมานานนับปีแล้ว โดยในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บขส.แจ้งว่าจะตั้งงบมาปรับปรุงซ่อมแซม แต่เวลาผ่านไป 8 เดือน เหตุใดจึงเพิ่งรู้ว่าบันไดเลื่อนไม่มีอะไหล่ แล้วขั้นตอนต่อจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป ต้องจัดซื้อบันไดเลื่อนชุดใหม่ใช่หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ บขส.ต้องชี้แจงกับประชาชนให้ชัดเจน ไม่ใช่ทำงานอย่างล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ และไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนเช่นนี้
นายศุภณัฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนของห้องให้นมบุตรและห้องปฐมพยาบาล สัปดาห์ที่แล้วมีทีมงานของตนเข้าไปสำรวจ ทั้งสองห้องไม่เปิด แต่วันนี้ในช่วงเทศกาลกลับมาเปิดแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเปิดให้ใช้เฉพาะในช่วงเทศกาล เพราะในวันปกติห้องปิดมืดสนิท ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ ทั้งที่ห้องเหล่านี้ควรเปิดพร้อมให้บริการประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรจะต้องให้ประชาชนไปขอใช้บริการ สำหรับพื้นที่ทิ้งร้าง ที่ บขส.ชี้แจงว่ากำลังจะปรับปรุงเป็นศูนย์การเดินทางนั้น จุดนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีคนเช่า แต่พื้นที่ถูกทิ้งร้างจนมีคนไร้บ้านเข้าไปอาศัยอยู่ บขส.ทราบหรือไม่ว่ามีคนไร้บ้านบุกรุกเข้าไปแอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ของตน บขส.ได้ให้ความใส่ใจพื้นที่ของตน รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้โดยสารมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังพบปัญหาการโก่งราคาตั๋วในช่วงเทศกาล รวมถึงปัญหาแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์ผิดกฎหมายก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะขากลับจากการเดินทางที่ผู้โดยสารถูกแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์มาดักรอตามทางเดิน เรียกเก็บค่าโดยสารแพงเกิน
“สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ประชาชน ทั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัดและกลับเข้ามา กทม.ต้องพบเจออยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนว่า บขส. รวมถึงกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ลงมารับรู้และรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนเลย พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อสถานีขนส่งหมอชิต 2 คือ “หน้าด่าน” ของเมืองรอง การมีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่เสื่อมโทรมเช่นนี้ จะถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองรองหรือไม่ โดยเฉพาะเมืองที่ไม่มีเครื่องบินหรือรถไฟเดินทางไปถึง แล้วอย่างนี้ นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร”นายศุภณัฐ กล่าว