นายกฯเผยผู้นำกัมพูชาจ่อเยือนไทย ถกปมฝุ่น PM2.5 วันที่ 7 ก.พ.นี้หารือผลกระทบและจะมีการช่วยเหลือกันทั้ง 2 ประเทศอย่างไร
เมิ่อเวลา 10.05 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ บน.6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่เคยออกมาบอกว่าจะต่อสายโทรศัพท์คุยกับพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา เพื่อการแก้ไขปัญหาการเผาไหม้ในเขตพื้นที่ประเทศกัมพูชาซึ่งส่งผลกระทบเรื่องฝุ่น pm 2.5 มายังประเทศไทยว่า มีการคุยกันอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้ได้มีการคุยกับผู้ช่วยของพลเอกฮุน มาเนตไป ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า เรื่องอุปกรณ์ และความรู้ทั้งหลายในประเทศกัมพูชา ไม่เทียบเท่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการเกษตรฯ ของกัมพูชา ไม่มีอุปกรณ์ ไม่มีปัจจัยเทียบเท่า แต่แน่นอนว่าเขาใส่ใจ ซึ่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ เขาก็จะไปเยือนประเทศไทย ก็จะมีการพูดคุยว่าเราจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไรบ้าง ซึ่งประเทศไทยก็พร้อมที่จะไปสนับสนุน เพราะเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน หากเราไม่ช่วยประเทศเราก็จะเดือดร้อน ซึ่งเราเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาโดยตลอด
เมื่อถามว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีปัญหาฝุ่น pm2.5 กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นในขณะนี้ จะมีการสั่งการอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า พยายามสั่งการ ซึ่งวันอังคารจะมีหลายเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องมาตรการที่ต้องใช้เป็น Negative และ incentive ที่หากใครไม่ปฏิบัติตามก็จะมีบทลงโทษ สินค้าต่างๆ หากพิสูจน์ทราบได้ว่ามีการเผาเกิดขึ้น ก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือทางการเกษตร ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ก็ขอให้รอฟัง
เมื่อถามว่า.ภาคอุตสาหกรรมได้ให้ความร่วมมือหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ทุกคนให้ร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่ปัญหาดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับปัญหาทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเกษตรกรก็จะมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น ถ้าเกิดไม่เผา ไม้ขีดก้านเดียวมันง่าย ที่จะขจัดซากวัชพืช แต่ว่าเรื่องนี้เราให้องค์ความรู้แก่เกษตรกรไปแล้วว่าในสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่ถูก แต่ว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลัง ที่ตนขอความช่วยเหลือจากกองทัพ ในการช่วยลำเลียงซากวัชพืชออกมา หรือการทำไบโอดีเซล หรือการทำถ่านไร้ควัน และการทำปุ๋ย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องมีรถยนต์ไปขนซากวัชพืชเหล่านี้ออกมา ก็จะช่วยเรื่องพวกนี้ได้เยอะ โดยตอนนี้เรากำลังช่วยกันอยู่