กรมวิทย์ฯ เก็บ 22 ตัวอย่างเชื้อโควิดทองหล่อ ถอดรหัสหาที่มาเชื้ออังกฤษกลายพันธุ์แพร่ในไทย คาดรู้ผลใน 3 วันนี้
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจหาที่มาของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด –19) กลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษนั้นเข้ามาเมืองไทยได้อย่างไร โดยการตรวจจะมี 2 วิธีคือ การตรวจอย่างเร็ว คือการถอดรหัสพันธุ์กรรมแบบมุ่งเป้า ใช้น้ำยาตรวจแบบจำเพาะเจาะจงต่อเชื้อนั้นๆ แต่ให้ผลไม่ 100% ต้องมาใช้วิธีการตรวจแบบการหาสายพันธุกรรมทั้งตัว
วิธีนี้จะทำให้มีความละเอียดลงลึกไปถึงที่มาว่าเชื้อนี้มาจากพื้นที่ไหนกันแน่ เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ที่มีการระบาดของสายพันธุ์ G หลายๆ ประเทศ แต่เราก็ถอดรหัสจนพบได้ว่าการระบาดที่เกิดขึ้นที่สมุทรสาครนั้นเป็นเชื้อที่มาจากประเทศเมียนมา ซึ่งได้รับเชื้อมาจากทางอินเดียอีกทอดหนึ่ง เป็นต้น
“เพราะฉะนั้น อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้มีรายงานพบเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และอยู่ในระบบกักตัว ขณะเดียวกันก็มีรายงานพบเชื้อดังกล่าวกำลังระบาดในประเทศกัมพูชา ดังนั้นขณะนี้กรมวิทย์ฯ จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบสายพันธุ์กรรมที่จะทำให้เรารู้ว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อังกฤษนั้นมาจากที่ไหนกันแน่ โดยเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงทองหล่อทั้งหมด 22 ตัวอย่าง มาตรวจสอบ คาดว่าจะรู้ผลใน 2- 3 วันนี้” นพ.ศุภกิจ กล่าว
นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตามหลักฐานทางวิชาการ การจะตรวจเจอเชื้อไวรัสโควิดได้ จะอยู่ที่ประมาณ 2-7 วันหลังรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ถ้ารับเชื้อวันนี้ พรุ่งนี้ไปตรวจก็ไม่เจอ การมาตรวจทันทีแล้วไม่เจอนั้นเพียงแต่จะบอกว่าไม่ได้มีการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การตรวจไม่เจอเชื้อในครั้งแรก ก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่มีการติดเชื้อ ต้องมีการตรวจซ้ำ โดยระหว่างที่รอตรวจซ้ำในช่วง 14 วันก็ต้องระมัดระวังตัวเอง ไม่พบปะผู้คน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่าน้ำยาตรวจเพียงพอ จะเห็นว่าไม่มีรพ.รัฐแห่งไหนออกมาระบุว่าน้ำยาขาด ภาพรวมเรามี 3-4 แสนชุด และกรมวิทย์ฯ ยังร่วมกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ในการผลิตน้ำยาตรวจเพื่อใช้ในราชการ ซึ่งเพียงพออยู่แล้ว.