“บิ๊กต่าย”พบนายกฯรายงานความคืบหน้ากรณีคดี “บิ๊กโจ๊ก” หลังศาลอนุมัติหมายจับ ชี้ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ ยืนยันไม่หนักใจในการทำคดี
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 เม.ย.ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ในฐานะรักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบและหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่อาคารรัฐสภา ในวันเดียวกันนี้ ว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมารายงานความคืบหน้า ในเรื่องของการสืบสวนปราบปรามและจับกุมความผิดต่างๆตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติดการพนันออนไลน์ บ่อนการพนัน แหล่งมั่วสุม การทวงหนี้นอกระบบ ซึ่งจะมีการพูดคุยและรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ นอกจากนี้จะมารายงานในเรื่องของขั้นตอนและกระบวนการที่จะพิจารณากรณีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.
ส่วนจำเป็นต้องให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทุกอย่างมีขั้นตอน มีกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ที่ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติ โดยตามขั้นตอนจะต้องได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนของนครบาล 1 ฉบับ และอีกฉบับคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องมารายงานตนต้องคดีอาญา เมื่อรายงานมาถึง ตนเองจะต้องตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งขั้นตอนนี้จะยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการพักราชการ ออกราชการ หรือสำรองราชการไว้ก่อน เพราะเป็นการปฏิบัติภายใต้กฎ ก.ตร. แต่หากการสอบสวนข้อเท็จจริง ปรากฏเหตุออกมามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรงเกิดขึ้นก็จะเป็นการพิจารณาอีกระดับหนึ่ง โดยทั้งหมดจะเป็นการให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงด้วย อยากให้ทุกคนแยกเรื่องอาญากับเรื่องทางวินัย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เวลานี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังต้องปฏิบัติราชการอยู่ตามปกติ ยืนยันไม่ว่าจะเป็นชั้นยศใด ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ระเบียบและคำสั่ง ซึ่งข้าราชการตำรวจทุกคนต้องปฏิบัติตามนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การยืดเวลา ขออย่าใช้คำนี้ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนที่กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ไม่มีเยอะเราต้องให้ความเสมอภาคเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบได้มีการกำหนดระยะเวลาหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มีกำหนดไว้ในกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อยู่แล้วภายใน 60 วันที่จะต้องดำเนินการ และสามารถขอขยายระยะเวลาได้ ถึงเวลานั้นคณะกรรมการเขารู้อยู่แล้ว ส่วนจะมองว่าการตั้งคณะกรรมการจะเป็นการยื้อเวลาหรือไม่ อย่าใช้คำว่ายื้อ เรียนว่าทุกอย่างมีขั้นตอนกระบวนการที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ไม่มียื้อ เราต้องให้ความเสมอภาคเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าการทำหน้าที่ไม่มีอะไรหนักใจ อยากทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผลสะท้อนกลับไปสู่ประชาชน ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลดความหวาดระแวง และจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นและศรัทธาเราโดยอัตโนมัติเอง
เมื่อถามว่า วันนี้ยิ่งถูกมองว่าองค์กรตำรวจขาดความศรัทธาจากประชาชน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ดูกันไปส่วนสามารถกวาดบ้านของตัวเองได้หรือไม่ เป็นความมุ่งมั่นที่จะทำ
