นายกฯชื่มชม “คิง พาวเวอร์” จัดงานอภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567 รวบรวมศิลปวัฒนธรรม การละเล่น ความสนุกสนานต่าง ๆ ยกระดับ Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 ที่ฟาวน์เทน สแควร์ คิง พาวเวอร์ รางน้ำ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานพิธีเปิดงาน คิง พาวเวอร์ อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567 ม่วน หนุก สุข คัก ยกประเพณีสงกรานต์แบบร่วมสมัย และวัฒนธรรมไทยพื้นถิ่น 4 ภาคมารวมไว้ในที่เดียว จัดขึ้น 6 วัน 6 คืน ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย.67 เพื่อตอกย้ำรางน้ำจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร สำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมว.คลัง, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร, นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง พาวเวอร์ และนายธนพจน์ ภาคสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเปิดงานครั้งนี้ด้วย พร้อมชมการแสดงบนเวทีและขบวนรถแห่ 4 ภาค คาราวาน ม่วน หนุก สุข คัก นำโดย โบว์ เมลดา สุศรี พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และ อิงฟ้า วราหะ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสเปิดงาน ‘คิง พาวเวอร์ อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567’ ซึ่งจัดโดยบริษัท คิง พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดี สำหรับวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยทุกคน รวมถึงเป็นวันที่เราต้องดูแลผู้สูงอายุ ดูแลครอบครัว มีการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีอุปการะคุณทุกคนในเทศกาลที่เราจะมีการจัดกิจกรรมสนุกสนาน รวมทั้งยังเป็นการแสดงออกในเรื่องของประเพณี วัฒนธรรม อาหาร และการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนจะมีความสุขและมีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่มาชื่นชมวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย อีกทังยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ถือเป็นเกียรติประวัติและเป็นการจัดงานครั้งแรกตั้งแต่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีดังกล่าว รวมทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์ คือ Soft Power ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทยและเป็นการยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง โดยกลุ่มบริษัท คิง พาวเวอร์ ได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567 ขึ้นมา 6 วัน 6 คืน โดยรวบรวมเอาศิลปวัฒนธรรม การละเล่น ความสนุกสนานต่าง ๆ มาไว้ในงานนี้ โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่รางน้ำด้วย ถือเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ถูกยกระดับขึ้นมาสู่สถานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
พร้อมกันนี้ นายกฯได้ขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการคลัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และชุมชนย่านรางน้ำ ที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานในครั้งนี้ขึ้น โดยหวังว่าเทศกาลสงกรานต์นี้ทุกคนจะมีความสุข สุขภาพแข็งแรง สนุกสนาน เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางกลับมาทำงานได้อย่างปลอดภัย ย้ำ “เมาไม่ขับ”จากนั้นนายกฯ ได้ร่วมสรงน้ำพระใน “ฮางฮด” เพื่อเปิดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ 2567” อย่างเป็นทางการ
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในวาระก้าวสู่ปีที่ 35 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ ชุมชนย่านรางน้ำ เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย สร้างปรากฏการณ์มหกรรมสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ จัดงาน “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ในคอนเซ็ปต์ “ม่วน หนุก สุข คัก” โดย “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ครั้งนี้เป็นการยกขบวนความสนุกของสงกรานต์ทั่วไทยไว้ในงานเดียว ตั้งแต่วันนี้ (11 เม.ย. 67) ถึง 16 เมษายน นี้ เวลา 10.00-21.00 น. และ “RANGNAM WATER STREET BY SUPERFLUID” ในวันที่ 13-15 เม.ย.67 เวลา 16.30-21.00 น. ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตลอดการจัดงาน พบกับกิจกรรมสรงน้ำพระรับปีใหม่ไทย, ใส่ชุดไทยถ่ายรูปฟรี, ดูดวง 4 ศาสตร์, เกมงานวัด ฯลฯ พร้อมเชิญชวน “สรงน้ำพระ” เสริมสิริมงคล ภาคกลาง หลวงพ่อโสธรจำลอง, ภาคใต้ พระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร, ภาคเหนือ พระพุทธสิหิงค์ หน้าตัก 9 นิ้ว และภาคอีสาน หลวงพ่อพระใส หน้าตัก 9 นิ้ว โดยจำลองบรรยากาศสงกรานต์ทั่วไทยมาไว้ในที่เดียว ตั้งแต่โซนหนุก (ถนนดีบุกภูเก็ต), โซนม่วน (ถนนท่าแพเชียงใหม่),โซนชุมทาง คิง เพาเวอร์ (สถานีรถไฟ), โซนสุข (ถนนข้าวสาร กทม.) และโซนคัก (ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น) รวมถึง 50 ร้านรวมมิตรสายอร่อย และคลองดอกไม้