เพจดังระบายความในใจ “บุคลากรทางการแพทย์” ถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนโควิด ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แถมขู่ตัดสิทธิ์ฉีดวัคซีนด้วยหากไม่ฉีด แต่ “รมต.” กลับสามารถปฎิเสธได้
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.64 เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ได้โพสต์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้บุคคลาการทางการแพทย์ โดยอธิบายว่า #เรามีสิทธิปฏิเสธวัคซีน(ที่เราไม่มั่นใจ) หากใครตามเพจมาตลอด จะรู้ว่าตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ที่พูดถึงเรื่องวัคซีน ให้ข้อมูล ทำโพลล์เล็กๆ ว่า วัคซีนตัวไหนที่เราฟังข้อมูลแล้วอยากฉีด จะมีเพื่อนเพจหลายคน บอกว่า กลัว ไม่อยากฉีดหรือ ไม่ได้กลัวหรอก แต่คิดว่าไม่คุ้มเสี่ยง ผมจะบอกเสมอว่า เป็นสิทธิของเรา สิทธิของร่างกาย
เราที่จะเลือกอยู่แล้ว แต่หากใครปรึกษาส่วนตัว หรือคนไข้ถามมา ว่าฉีดดีไหม? (หรือ โพสต์ในเพจช่วงหลัง คือ ช่วงที่มีวัคซีนเข้ามาแล้ว ผมจะสรุปว่า ฉีด ดีกว่าไม่ฉีด เสมอ)
สองสามวันที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สองอย่าง ที่ทำให้ผมต้องเขียนโพสต์นี้ออกมา หนึ่ง คือ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีน SinoVac สอง คำบอกเล่าจากบุคลากรหลายทาง ที่บอกว่า เขาห้ามปฏิเสธ เขาบังคับให้ฉีดกันทุกคน เรียกว่า สองข้อนี้ เขย่าผมจนต้องเขียน แม้จะรู้ว่า อาจจะขัดกับความคิดหลายคน
ผลข้างเคียงเกิดขึ้นจริงและเป็นผลข้างเคียงที่ไม่เล็กน้อยเลยแม้ที่ผ่านมายังไม่มีใครถึงกับมีอาการถาวร มีเพียงอ่อนแรงไปชั่วคราว แต่เราจะรอให้เกิดเคสแบบนั้นก่อน? ที่ผ่านมาให้ ยา rtPA–สลายลิ่มเลือด ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นยาอันตราย เราจะรอให้เกิดเคสที่เกิดผลข้างเคียง จากการให้ยาก่อนเหรอ ?
ถามผม ผมไม่กลัวคิดว่าโอกาสเกิดน้อย แต่ประเด็นคือ ถ้าคนอื่นกลัว ทำไมพวกเขาจึงปฏิเสธไม่ได้? ถ้าเขามีเงื่อนไขบางอย่าง ทำไมจะปฏิเสธไม่ได้? คณะรัฐมนตรีบางคน ยังปฏิเสธที่จะไม่ฉีดได้ ทำไมบุคลากรทางการแพทย์จึงจะปฏิเสธไม่ได้???? เดิมทีก่อนจะเขียนประเด็นนี้
เหตุผลข้อหนึ่งที่ ผม, บุคลากรทางการแพทย์ ถูกสอนเสมอในเรื่องการฉีดวัคซีน นั่นก็คือ ที่ฉีดนั้น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์เราเอง แต่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมถ้าบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อหนึ่งคน ผลกระทบต่อระบบมันสูง ขาดหมอไปหนึ่งคน ขาดพยาบาลไปหนึ่งคน ผู้ช่วยไปหนึ่งหรือ คนขับรถไปหนึ่งคน จะลำบากทั้งเพื่อนร่วมงาน ทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคน ไปจนถึง รพ.
สุดท้ายจะวนมาถึง คนไข้ก็จะลำบากพอวนมาถึงคนไข้ เรา คนเป็นหมอ เป็นพยาบาล หรือ เจ้าหน้าที่ใน รพ. ก็จะเห็นด้วยทันที แต่ครั้งนี้ มันเกินไปแล้วครับ บุคลากรทางการแพทย์ก็คนธรรมดาคนนึง มีสิทธิ์ที่จะรักตัวเอง มีสิทธิ์ที่จะกลัว วันก่อนมีเคสที่ลำปาง เมื่อวานมีเคสที่ศิริราชอีก 3 ที่อื่นๆ ก็มีอีก บางรายต้องรักษา ด้วยการให้ยาที่ไม่ธรรมดา บอกว่าทุกรายหายดี มันรับประกันได้ไงว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกราย
ไม่ใช่เรื่องขำ ชา อ่อนแรงครึ่งซีก แล้วคุณจะบอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายนะ
อย่างนี้ยังไม่ให้ ปฏิเสธ อีก?เอาคำว่า เสียสละเพื่อส่วนรวมมาปิดปากอีก? ระดับอาจารย์แพทย์ ระดับที่ปรึกษารัฐบาลคุณหาวัคซีนมาให้ลูกศิษย์ มาให้พี่น้องสาธารณสุขด่านหน้าได้แค่นี้คุณ ยังกล้าบอกว่าคุณทำดีที่สุดแล้วเหรอ? ทุกครั้งที่มีวิกฤต รพ.จังหวัด รพ.ชุมชนวิ่งเต้นหาคนช่วยเหลือ รับบริจาค ไม่นับต้องควักเนื้อตัวเองอีกเท่าไหร่ ควงเวรกันเท่าไหร่ บ้านช่องไม่ได้กลับ ยังกล้ามาทวงถาม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอีก?
การจัดสรร จัดหาวัคซีนที่ล่าช้า อุปกรณ์สำหรับป้องกันเจ้าหน้าที่ให้พอยังไม่ได้ นี่คือทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแบบไหน? หรือมีแต่ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจเท่านั้น ผู้อาวุโสเท่านั้นที่บอกได้ว่า ตัวเองทำดีที่สุดแล้ว มีข้อจำกัดนู่น นี่ นั่น แล้วกลุ่มคนทำงาน ไม่มีข้อจำกัดหรือไง?
วันก่อนเพื่อนต่างประเทศเล่ามาว่า อยู่ที่นั่นถ้าชุดไม่พร้อม บุคลากรเขาปฏิเสธไม่ทำงานเลยทันที นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดฝันจะทำ แต่มันสะท้อนมาตรฐานเดียวกันง่ายๆ เรียกร้องให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นมืออาชีพ คุณต้องทำส่วนที่คุณรับผิดชอบให้มีความเป็นมืออาชีพเช่นกัน
เอาวัคซีนประสิทธิภาพพอใช้มาให้ ผมไม่เคยบอกว่า ไม่ควรฉีด หลักฐานเท่าที่มีบอกว่าใช้ได้ ก็ใช้แต่เมื่อใช้แล้วมีปัญหา คนที่รับความเสี่ยงก็ย่อมมีสิทธิปฏิเสธ ตรงไปตรงมามาก นี่ยังไม่นับว่า มาตรฐานมันต่างกันแค่ไหน เท่าที่เห็นทุกที่ บุคลากรก็มีสิทธิ์ที่จะฉีดหรือไม่ฉีด
ล้ำไปกว่านั้น บางประเทศเมื่อวัคซีนมีปัญหาเขาก็สั่งหยุดฉีด สืบสวน วิเคราะห์กันจริงจังหรือ บางประเทศระงับบางตัวถาวรไปเลย
อาจารย์บางคน ก่อนเลือกวัคซีนบอกว่าความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เราถือว่า การฉีดวัคซีนคือฉีดให้คนปกติ หากเกิดผลข้างเคียงรุนแรงย่อมเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ บลาๆๆๆ พอมันมีปัญหา กลับเงียบสนิท เรื่องความปลอดภัยต้องชั่งประโยชน์กับ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนะ บลาๆๆๆ แล้วบอกว่าฉีดต่อได้เลย????
สุดท้าย นี่ไม่ได้เหมารวมเชื่อว่าหลายที่ ก็บอก, จัดการ ให้มีคนที่ปฏิเสธได้ ถ้าที่ไหนไม่ทำก็ควรทำอย่าเหมารวมคิดว่าทุกคนเต็มใจเต็มร้อยเหมือน รมต. บอกว่า บุคลากรไม่เคยมาบ่นว่าไม่ไหวนี่ คนแบบนี้ ก็เคลมตามใจเอาดื้อๆ (มีบางคนบอกว่า ไม่ฉีดได้นะแต่เขาจะตัดสิทธิ์ จะไม่ได้วัคซีนไปเลยอันนี้ ขอให้เป็นแค่ข่าวลือ เพราะน่าเกลียดเกินไป) และถ้าใครไม่รู้ว่าเรามีสิทธิ์ปฏิเสธได้ก็แค่อยากให้รู้ไว้ว่า มันเป็นทางเลือกของเราเช่นกัน เลือกฉีดก็ดี เลือกไม่ฉีดก็ได้
เราเลือกของเราเอง
