หรือจะเอาครึ่งเม็ด! ‘สมศักดิ์’ ยัน 17 พ.ค.นี้ขึ้นเว็บฟังความเห็นกำหนดจำนวนยาบ้า ฝาก อสม.แจ้งเบาะแสจับ “ยาเสพติด” ยึดทรัพย์ ได้เงินรางวัล 5% แจงเป็นผู้เสพให้โอกาสบำบัด ไม่ได้ดูกี่เม็ด แต่อยู่ที่พนักงานสอบสวน
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงไทม์ไลน์การปรับลดจำนวนยาบ้าจาก 5 เม็ดเหลือ 1 เม็ด ว่า จริงๆ ให้ไทม์ไลน์ไปแล้ว ว่าวันที่ 17 พ.ค.จะขึ้นเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนให้ความเห็นเป็นเวลา 15 วัน แล้วเอาความเห็นมาประมวลว่าจะทำอย่างไรต่อเป็นกรอบของกฎหมาย ซึ่งจะไม่ถามว่ากี่เม็ด แต่จะถามว่าเม็ดเดียวเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือจะให้เหลือครึ่งเม็ดอะไรก็ว่ามา ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายยาเสพติดตนเป็นผู้เสนอ ครม.และสภา ในกฎหมายเจตนารมณ์ไม่มีสักเม็ดเลย แต่ในขั้นตอนเสนอกฎหมายเข้าไปในคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็มีความเห็นว่า ยาบ้าบางทีติดเล็บมา มีเศษติดกระเป๋ามาจะคิดอย่างไร ก็กำหนดว่าให้มีเล็กน้อย ก็ตัดปัญหาไม่ให้ยุ่งยากก็มี 1 เม็ด จริงๆ จะไม่เอาสักเม็ดเลย แล้วประเด็นนี้ไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ก็เห็นด้วยกันหมด เลยทำออกมาเป็นเจตนารมณ์กฎหมาย
“แต่ผมจะขยายความว่า การยึดทรัพย์เม็ดนึงเป็นผู้ครอบครอง ไม่ใช่ผู้เสพ ต้องถูกตรวจสอบทรัพย์สินยึดทรัพย์ และคนที่ถูกตรวจสอบต้องอธิบายให้ได้ว่า ทรัพย์สินที่ครอบครองได้มาแต่ใด แล้วย้อนหลังไปด้วยว่าค้ายาหรือมีความยุ่งเกี่ยวกับยามากี่ปีแล้ว จะคำนวณทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำคดีในเรื่องนี้ ตำรวจก็ออกมาขานรับ” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขอฝากอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งจะรู้สภาพในพื้นที่ใครเสพ ใครขาย ก็ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสเข้ามาเพื่อตรวจสอบขยายผล ซึ่งยืนยันว่า การแจ้งข้อมูลนั้นจะเป็นความลับ ทั้งนี้เมื่อมีการตรวจสอบ ขยายผลจนนำมาสู่การยึดทรัพย์แล้ว ผู้แจ้งเบาแสจะได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัล 5% ของมูลค่าทรัพย์ที่ยึดได้ รวมถึงประชาชนที่แจ้งเบาะแสด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ทำคดีจนนำสู่การยึดทรัพย์ก็จะมีส่วนแบ่งรางวัล 25%
มเอถามว่าการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย บำบัดแล้วไม่รับโทษ จะยังต้องดูจำนวนเม็ดอีกหรือไม่ หลังปรับยาบ้าเหลือ 1 เม็ด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราบอกว่า ถ้าเป็นผู้เสพอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดี ไม่ได้คิดว่ากี่เม็ด ขอให้เป็นผู้เสพเราก็จะให้โอกาส แต่ถ้ามีเม็ดเดียวไม่เป็นผู้เสพก็ต้องทำเรื่องทรัพย์มาด้วย.