“สธ.” ย้ำคนไทยทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจ จัดคิวให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขฉีดวัคซีนครบภายในเดือนพ.ค. ผู้สูงอายุ-คนมีโรคประจำตัว 16 ล้านคนฉีดเดือนมิ.ย.-ก.ค.
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข แถลงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ให้กับประชาชน ว่า ในเดือนมิ.ย นี้ จะมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามา 6 ล้านโดส และ ก.ค.อีก 10 ล้านโดส ดังนั้นกระทรวงจะเปิดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 16 ล้านคนลงทะเบียนฉีดวัคซีน
โดยจะเริ่มเปิดลงทะเบียนจองตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้ ผ่านไลน์ OA “หมอพร้อม” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กระทรวงสาธารณสุขจะพัฒนาให้เป็น National Health platform ต่อไป และในอนาคตอาจจะเห็นการขอใบรับรองแพทย์ผ่านโรงพยาบาลของรัฐผ่านระบบเทคโนโลยีได้
“ย้ำอีกครั้งว่าข้อมูลทั้งหมด ตัวเลขทั้ง 16 ล้านคน กำลังทยอยเข้าระบบ อาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง คาดว่าประมาณ 5% เช่น บางส่วนข้อมูลตกหล่นในคลินิกเอกชน ข้อมูลจึงยังไม่มีตรงนี้ กับบางส่วนอาจจะยังไม่มีข้อมูลในรพ. แต่ 5% นี่จะถูกแก้ไขให้นำเข้าข้อมูลอย่างครบถ้วน ส่วนประชาชนที่ไม่ได้อยู่ใน 16 ล้านโดส จะได้รับการจัดสรรในเดือนถัดๆ ไปจนครบการรับวัคซีนในเดือนธ.ค. 2564 ” นายสาธิต กล่าว
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโควิด 19 กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่าคนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน เป็นไปตามความสมัครใจ ซึ่งการจัดกลุ่มเป้าหมายจะมีการบริหารจัดการทั้งหมดแบ่งเป็น 5 กลุ่มด้วยกัน 1. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 1.2 ล้านคน กลุ่มที่ 2 บุคลากรด้านหน้า 1.8 ล้านคน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจะได้รับครบถ้วนภายในเดือนพ.ค.นี้
กลุ่มที่ 3 คือบุคคลที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคจำนวน 4.3 ล้านคนคือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด ไตวายเรื้อรังหลอดเลือดสมอง มะเร็งทุกชนิด เบาหวาน และโรคอ้วน กลุ่มที่ 4 ผู้สูงอายุ จำนวน 11.7 ล้านคน โดย 2 กลุ่มนี้รวม 16 ล้านคน ที่จะได้รับวัคซีนในเดือนมิ.ย.และก.ค.นี้
การที่ให้ 2 กลุ่มนี้ก่อน เพราะข้อมูลการเสียชีวิตทุกรายพบว่ามีโรคประจำตัวหรือเป็นผู้สูงอายุ ขณะที่ที่วัคซีนในการศึกษายืนยันว่าช่วยลดการเสียชีวิตช่วยลดการนอนโรงพยาบาล ดังนั้น 2 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เราต้องดูแลก่อนเพื่อไม่ให้มีการสูญเสียและเจ็บป่วยหนัก ระบบสาธารณสุขก็จะสามารถเดินต่อไปได้
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่มที่ 2-3 ทางโรงพยาบาลได้นำรายชื่อผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเช่นในระบบไลน์หมอพร้อมแล้ว เพื่อให้ประชาชน ได้จองคิวตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยการจองคิวนั้นให้ประชาชนเพิ่มเพื่อนในไลน์หมอพร้อม ต้องกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ให้ถูกต้อง จากนั้นทำการจองวัคซีนโควิด-19 ตามเวลาที่สะดวก โดยกดเมนูจองฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะเป็นรพ.ที่รักษาตัวอยู่ หรือเป็นรพ.ในภูมิลำเนา หรืออาจจะเป็นสถานที่เช่นศูนย์การค้าตามที่จังหวัดต่างๆ จัดตั้งขึ้น ทั้งนี้สามารถจองคิวให้คนในครอบครัวได้ เช่น เป็นโทรศัพท์ของลูกสามารถกดเพิ่มบุคคลอื่น ใส่ข้อมูลส่วนตัว ที่ และจองให้พ่อ แม่ได้ ส่วนในภูมิภาค หรือคนที่ไม่มีโทรศัพท์สามารถจองคิวได้ผ่านอสม. หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์ไปจอง หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในหมู่บ้านก็ได้
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มที่ 5 คนอายุ 18 – 55 ปี จะได้ฉีดในเดือนส.ค.-ก.ย. โดยเปิดจองในเดือนก.ค. แต่ถ้าช่วงนี้รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมได้ก็สามารถใช้เพิ่มเข้าไปได้ เช่น วัคซีนบางตัวเหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือเหมาะสำหรับกลุ่มอายุ 12-18 ปี ก็จะสามารถเสริมเข้าไปได้ หรือหากมีปัญหาหรือสถานการณ์เช่นกลุ่มคุณครูที่จำเป็นต้องฉีดแล้วหาวัคซีนมาแล้วก็จะสามารถเสริมเพิ่มเติมจะได้.