เสวนา THAICID ระดมสองสู้ปัญหา ความไม่แน่นอนในสภาพอากาศโลก เพื่อนำองค์ความรู้มาเพิ่มศักยภาพงานชลประทานและการระบายในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. คณะกรรมการด้านการชลประทาน และการระบายน้ำแห่งประเทศไทย หรือ THAICID แถลงข่าว การจัดงานสัปดาห์เครือข่าย THAICID-NWIKS 2024 เปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย่างบูรณาการ ประจำปี 2567 ในระหว่างวันที่ 3-5 ก.ค.นี้ โดยนายสาธิต มณีผาย ประธานคณะทำงานด้านวืชาการ THAICID กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันระดมความคิดเห็น ในหัวข้อสำคัญ คือ การเสริมสร้างระบบชลประทานแบบ SMART และมีส่วนร่วม เพื่อรองรับกระแสความไม่แน่นอนของโลก ความแปรปรวนรุนแรงของสภาพอากาศ เพื่อจะนำองค์ความรู้ มาเพิ่มศักยภาพงานชลประทานและการระบายน้ำของประเทศไทย ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อปรับตัวให้เท่าทันความแปรปรวนของสภาพอากาศ
โดยจะต้องเจาะลึกใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การขับเคลื่อนงานชลประทานแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพื่อทำให้การจัดการน้ำมีประโยชน์สูงสุด และยังช่วยลดภาวระของภาครัฐด้วย 2.นวัตกรรมสร้างระบบชลประทานแบบมีสมรรถนสูง ลดการใช้พลังงาน และภาระการบริหารจัดการโดยบุคลากร และ 3.การปรับตัวเพื่อรองรับสภาวะอากาศที่แปรปรวน โดยใช้ทุนธรรมชาติ เช่น การต่อยอดงานวิจัย นาเปียกสลับแห้ง นอกจากช่วยเพิ่มรายได้ ยังสามารถช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย เป็นการเน้นย้ำให้เห็นประโยชน์ของการปล่อยให้นาแห้ง 1 ครั้ง จะได้ประโยชน์ถึง 6 อย่าง และนำมาสู่การขยายพื้นที่ ทำนาเปียกสลับแห้ง เพื่อขายคาร์บอนเครดิตในนาข้าวอย่างเป็นรูปธรรม
นายสาธิต ยังกล่าวว่า แนวคิดในการระดมสมองครั้งนี้ จะเป็นโจทย์ให้กรมชลประทาน และหน่วยงานรัฐนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์และความรู้แก่ประชาชนให้มากที่สุด เพราะในต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าเกิดภาวะแล้งจัด จนได้เห็นอุณหภูมิในกรุงเทพสูงสุดถึง 43 องศามาแล้ว และถ้าอุณหภูมิขึ้นไปถึง 45 องศาจะทำกันอย่างไร ฉะนั้นจำเป็นต้องมีแนวทางให้ระดับรัฐบาลเตรียมรับมือ รวมทั้งหากเกิดฝนตกหนักสุดขั้วฝนร้อยปีพันปีเหมือนในบ้างประเทศ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องหามาตราการออกมา เพื่อลดผลกระทบและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้มากที่สุด
