“ชูวิทย์” สะกิดเตือน “ผู้มีอำนาจ” ระวัง “คลัสเตอร์คลองเตย” รุนแรงกว่า “คลัสเตอร์ทองหล่อ” แนะให้เร่งตรวจเชิงรุก จัดรพ.สนาม ป้องกันไว้ก่อน ดีกว่ามาตามแก้ไม่ทัน แต่ขออย่าปิดบังตัวเลขให้ดูต่ำๆ เหมือนไม่ยอมรับความจริง ชี้เขตคลองเตย มีทั้งย่านคนรวยและคนจน เหมือนแดนนรกสวรรค์อยู่ในภพเดียวกัน
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “คลัสเตอร์คลองเตย” ระบุว่า…ข่าวจากวงในที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อคืนมีผู้มาตรวจพบเชื้อโควิดหลายคนที่มีอาการหนัก เชื้อลงปอดแล้ว อันหมายถึงติดมาหลายวันแล้ว ที่สำคัญมาจากชุมชนแออัดคลองเตย
อย่างที่ทราบ ชุมชนคลองเตยเป็นชุมชนที่มีภาพความเป็นอยู่อาศัยแค่ผนังไม้สังกะสีกั้น มีทุกเพศทุกวัยหาเช้ากินค่ำ อาจไม่ได้มีการระมัดระวังสูงอย่างคนมีสะตุ้งสตางค์ หากตรวจพบเชื้อโควิดจำนวนหลายคนแล้ว ถึงขนาดมาตรวจ 8 คน ติด 5 คน ทุกคนล้วนมาจากชุมชนคลองเตยทั้งสิ้น มีโอกาสสูงที่จะเป็น “คลัสเตอร์คลองเตย”
จึงขอเป็นสื่อกลางถึงผู้ที่มีอำนาจต้องรีบดำเนินการ จะตรวจเชิงรุกชุมชนคลองเตย หากพบมากจะจัดโรงพยาบาลสนาม บริหารจัดการอย่างไร ก็แล้วแต่ท่านผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่ขออย่าได้ปิดบังตัวเลขให้ดูต่ำๆ ไม่ยอมรับความจริง
ครั้งนี้ป้องกันไว้ดีกว่ามาตามแก้ไม่ทัน แพร่ไปทั่วแบบ “คลัสเตอร์ทองหล่อ” ที่เริ่มจากคนรวย แล้วซวยไปทั้งประเทศ เที่ยวนี้เกิดที่คลองเตยชุมชนแออัดแล้วแพร่เป็น “คลัสเตอร์คลองเตย”
เขตคลองเตยมีทั้งย่านคนรวยอย่างสุขุมวิท และคนจนในย่านชุมชนแออัด สภาพเหมือนแดนนรกสวรรค์อยู่ในภพเดียวกัน หากเกิดโควิดแพร่ระบาดในเขตนี้ จะดูไม่จืดเลยครับท่าน เตือนกันแล้วนะครับ พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า กระทรวงกลาโหม ได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอใช้พื้นที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแล้ว เพราะพบว่า ชุมชนคลองเตยและชุมชนใกล้เคียง เป็นชุมชนแออัด หากพบการติดเชื้อแล้วไม่นำเข้าระบบสาธารณสุขได้เร็วและทันเวลา จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จนเกิดขีดความสามารถของระบบสาธารณสุข จึงขอความร่วมมือจากการท่าเรือฯเพื่อขอพื้นที่ในการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม
