วันอาทิตย์, กันยายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightสธ.แถลงพบผู้ต้องสงสัยป่วยฝีดาษวานร สายพันธุ์รุนแรงรายแรกในไทย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.แถลงพบผู้ต้องสงสัยป่วยฝีดาษวานร สายพันธุ์รุนแรงรายแรกในไทย

เปิดไทม์ไลน์ ผู้ต้องสงสัยป่วยฝีดาษวานร สายพันธุ์เคลด 1 บี รายแรกของไทย เป็นชายยุโรป มีบ้านที่ไทย ล็อคเป้าติดตามผู้สัมผัส 43 ราย ยืนยันไม่ระบาดใหญ่เหมือนโควิด 19

เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 ที่กรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวพบผู้ต้องสงสัยป่วยโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เป็นรายแรกในประเทศไทย เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา จำนวน 1 ราย ว่า วันนี้ ไม่ใช่ว่า เรายืนยันว่าพบเคลด 1 บี แต่ผู้ป่วยรายนี้ยังเป็นผู้สงสัยเท่านั้น แต่ยังไม่ 100% ว่าเป็น เคลด 1 บี แต่ให้มีการแถลงให้ประชาชนทราบก่อนโดยที่ยังไม่ต้องรอยืนยันผล 100 % แต่เราค่อนข้างคิดว่าผู้ป่วยรายนี้อาจจะใช้ดาษวานร ที่ไม่ใช่เคลด 2 บี โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นชายชาวยุโรป อายุ 66 ปี มีบ้านพักในประเทศไทย แต่ไปทำงานที่ประเทศแถบแอฟริกา จากนั้นเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ส.ค. เวลา 18.00 น. มาจากแถบแอฟริกา ที่มีการระบาดของฝีดาษวานรเคลด 1 บี โดยมีการต่อเครื่องที่ตะวันออกกลาง ก่อนเข้าประเทศไทย

หลังจากนั้นวันที่ 15 ส.ค.เช้า ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ และเริ่มมีตุ่มขึ้นมาเล็กน้อย จึงไปที่โรงพยาบาล ซักประวัติสงสัยเข้าได้กับฝีดาษวานรหรือไม่ จึงตรวจหาสายพันธุ์เคลด 2 แต่เป็นผลลบ พอตรวจสายพันธุ์เคลด 1 บี แต่ให้ผลไม่ชัดเจน จึงมีการตรวจยืนยันด้วยวิธี Rt-PCR ยืนยันว่าเป็นฝีดาษวานร แต่สายพันธุ์เคลด 1 บียังไม่ชัดเจน อยู่ระหว่างตรวจไล่สายพันธุ์ทั้งจากบำราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตรการแพทย์ รวมถึงโรงพยาบาลเพื่อยืนยันผลอีกครั้งคาดวาจะทราบผลในวันที่ 23 ส.ค.นี้ หากผลอกมายืนยันว่าเป็นสายพันธุ์เคลด 1 บี ก็ถือเป็นรายแรกของประเทศไทย แต่ถึงแม้วันนี้จะยังไม่ยืนยัน 100% ก็ต้องออกมาให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อไม่ให้ทุกคนหาข่าวแล้วจินตนาการกันเอง เป็นการสร้างความตระหนัก ไม่ให้ตระหนกและนำไปสู่การควบคุมป้องกันโรคอย่างทันท่วงที

“ผู้ป่วยต้องสงสัยรายนี้ค่อนข้างเชื่อได้ว่าเป็นฝีดาษวานรแน่ และมาจากประเทศที่มีการระบาดของสายพันธุ์เคลด 1 บี และเรามีระบบในการติดตามคนสัมผัส คนนั่งเครื่องบินเดียวกัน 2 แถวใกล้ผู้ป่วยรายนี้ มีการสอบสวนโรค ซึ่งมีรายชื่อทั้งหมดแล้ว รวม 43 คน ล็อคเป้าเรียบร้อยแล้ว มีทั้งไทยและต่างชาติ จะเห็นว่า ผู้ป่วยรายนี้มีเวลาสัมผัสกับคนสั้นมาก เพราะมาถึงไทย 6 โมงเย็นแล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปพบแพทย์และอยู่ที่รพ.เลย ทั้งนี้ติดตามคนสัมผัสประมาณ 21 วัน” นพ.ธงชัย กล่าว และว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวอาการล่าสุดดีขึ้น ไม่รุนแรง และไม่มีอาการแทรกซ้อน ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด 43 คนไม่จำเป็นต้องกักตัว ยังไม่พบความปิดปกติ แต่แนะนำให้ความรู้ในการป้องกันตนเอง รวมถึงหากมีอาการต้องสงสัย เช่น มีไข้ ตุ่มหนอง ผื่น ให้รีบพบแพทย์

เมื่อถามถึงอัตราการเสียชีวิต 2 สายพันธุ์ มีความแตกต่างกัน นพ.ธงชัย กล่าวว่า เคลด 1 บี มีความรุนแรงมากกว่า อัตรการเสียชีวิต ประมาณ 3-5% ที่องค์การอนามัยโลกเป็นห่วงเพราะพบติดในเด็กด้วย ส่วนเคลด 2 อัตราการเสียปะมาณ 1.3%

เมื่อถามว่ามีผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการรบาดเข้ามายังประเทศไทยวันละประมาณเท่าไหร่ เข้าประเทศไทย สายการบินตรงไม่แวะ จะมีประมาณ 4 สายการบิน แต่เรามีประกาศว่า 42 ประเทศ ที่เดินทางเข้าไทยต้องมาพบที่ด่านควบคุมโรคของประเทศไทย วัดไข้ ดูอาการ ซักถามประวัติ และเริ่มประสานสายการบินในการตรวจสอบ คัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศไทยโดยมีการเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่นก่อน

“ความเสี่ยงของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำมาก หรือระดับ 1 หากจะยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันโรค ต้องพบการติดเชื้อภายในประเทศ และพบเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งผมมั่นใจว่าจะไม่มีการระบาดเหมือนโรคโควิด เพราะไม่ได้ติดต่อง่าย การจะแพร่เชื้อได้ ต้องมีอาการ ต่อมน้ำเหลืองโต ถึงจะติด หรือระบาดได้ หากไม่มีอาการพวกนั้น 1. การติดของมันไม่ง่าย 2. การแพร่ วิธีการตัวมันเองไม่ได้มีประสิทธิภาพในการติดเหมือนโควิเด การจะติดต้องใกล้ชิดกันมาก แตะตัว แตะผิวหนัง น้ำลายออกไปยังไม่ติด ต้องมีปริมาณ จำนวน ช่องทาง” นพ.ธงชัย กล่าว และว่า ขณะนี้ ฝีดาษวานร ยังจัดเป็น 1 ใน 57 โรคที่ต้องเฝ้าระวัง .

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img