ด่วน วิกฤตเลือดสำรองเริ่มขาดแคลนทั่วไทย ยอดบริจาคตกเกินครึ่ง สวนทางยอดขอใช้ วันละ 7,305 ยูนิต จ่ายได้แค่ 3,237 ยูนิต ชวนคนไทย สุขภาพดีบริจาคด่วน
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในรอบ 1 เดือนย้อนหลังพบว่า มีการเบิกใช้โลหิตของโรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ 7,305 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตได้เฉลี่ยวันละ 3,237 ยูนิต หรือ 44% เท่านั้น แสดงถึงโลหิตคงคลังเริ่มขาดแคลนทั่วประเทศ หรืออยู่ระดับวิกฤติสีเหลือ ต้องดึงเลือดสำรองคงคลังที่สำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือเกิดเหตุอันร้ายแรงมาใช้จำนวนมาก เพื่อให้สามารถจ่ายได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงฝนตก น้ำท่วมที่ผ่านมาทำให้ประชาชนมาบริจาคโลหิตน้อยลง อัตราการจัดหาโลหิตบริจาคลดเหลือ 1.68% ของประชากรทั่วประเทศ จากเป้าหมาย 3% ของประชากรทั่วประเทศ
รศ.พญ.ดุจใจ กล่าวต่อว่า สำหรับความถี่ในการบริจาคโลหิตปีงบประมาณ 2567 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2567 มีผู้บริจาคโลหิตปีละ 1 ครั้ง อยู่ที่ 1,043,942 คน มีผู้บริจาคโลหิต ปีละ 2 ครั้ง จำนวน 318,973 คน ถือว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายการจัดหาโลหิตฯ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่รอรับการผ่าตัด ซึ่งสำรองไว้ระหว่างการผ่าตัด 2 – 3 ยูนิตต่อครั้ง หรือในกรณีที่มีอาการรุนแรงจะต้องใช้ 5 – 10 ยูนิตต่อครั้ง นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาอย่างอีกน้อยเดือนละ 1-2 ยูนิต อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคเกล็ดเลือดต่ำ หากไม่ได้รับโลหิตได้อย่างทันท่วงทีจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้
จากสถานการณ์ดังกล่าวศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญที่มีสุขภาพดี มาบริจาคโลหิต เปลี่ยนสัญญาณโลหิตคงคลังจากระดับสีเหลือง ให้เป็นระดับสีเขียว โดยผู้บริจาคโลหิตระหว่างวันที่ 25 – 29 พ.ย. 2567 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ จะได้รับเสื้อยืด “Blood Donation” Give Blood Save Life เป็นที่ระลึกแทนคำขอบคุณ ทั้งนี้การบริจาคโลหิตสามารถทำได้ทุๆ 3 เดือน
ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ปริมาณโลหิตคงคลัง สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ ระดับสีเขียว หมายถึง โลหิตคงคลังมีปริมาณเพียงพอในการสำรองจ่าย ระดับสีเหลือง หมายถึง โลหิตคงคลังเริ่มเข้าสู่ภาวะโลหิตขาดแคลน และระดับสีแดง หมายถึง ภาวะวิกฤติโลหิตขาดแคลน