“อธิบดีกรมคุก” เปิดยอดผู้ติดเชื้อใหม่ 842 ราย ทัณฑสถานหญิงธนบุรีเจอเชื้อโควิดครั้งแรกถึง 59 คน ย้ำสวอปทุก 7 วันจนกว่าจะไม่พบเชื้อ พร้อมเข้มงวด “คนส่งอาหาร” ต้องใส่ชุด PPE เข้า-ออกคุกใช้เวลาน้อยที่สุด ขณะที่ “สธ.” พร้อมฉีดวัคซีนกลุ่มไม่ติดเชื้อ-กลุ่มเสี่ยง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ที่กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำทั่วประเทศว่า วันนี้มีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 842 ราย ประกอบด้วย เรือนจำกลางเชียงใหม่ 4 ราย, เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 1 ราย, ทัณฑสถานหญิงกลาง 17 ราย, เรือนจำกลางคลองเปรม 475 ราย, เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 20 ราย, ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 38 ราย, เรือนจำจังหวัดนนทบุรี 18 ราย, เรือนจำกลางบางขวาง 210 ราย และทัณฑสถานหญิงธนบุรี 59 ราย โดยทัณฑสถานหญิงธนบุรีพบเชื้อโควิดเป็นครั้งแรกของการระบาดระลอกใหม่ ส่วนผู้ที่รักษาหายแล้วมี 319 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ต้องขังอยู่ระหว่างการรักษา 14,049 ราย จากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วเทศ 12 แห่ง
“ปัจจุบันเรือนจำมีการตรวจเชื้อในผู้ต้องขังแล้วจำนวน 36,627 ราย โดยตรวจครบ 100% จำนวน 8 แห่ง คือ 1.เรือนจำกลางเชียงใหม่ 2.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 3.ทัณฑสถานหญิงกลาง 4.เรือนจำกลางคลองเปรม 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี 6.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง 7.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และ 8.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี และยังอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ครบ 100% ในเรือนจำกลุ่มเสี่ยง รวมถึงการสวอปหาเชื้อซ้ำทุกๆ 7 วันในกลุ่มที่ยังไม่พบเชื้อ จนกว่าสถานการณ์จะปกติ”อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการจัดหาวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งว่า พร้อมฉีดวัคซีน โดยจะเริ่มจากกลุ่มผู้ต้องขังที่ยังไม่ติดเชื้อ ผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิต และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำและทัณฑสถานเขตกรุงเทพมหานครไปแล้ว 95% (1,683 ราย จากทั้งหมด 1,770 ราย) สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค สาธารณสุขจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม กรมราชทัณฑ์ ได้มีมาตรการเพิ่มเติมในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด โดยสั่งการให้ผบ.เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการป้องกันการติดเชื้อจากบุคคลภายนอก โดยเฉพาะการส่งอาหารให้ผู้ส่งอาหารสวมชุด PPE พร้อมสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shield ให้พร้อม และใช้เวลาเข้า-ออกเพื่อส่งสินค้าให้น้อยที่สุด สำหรับผู้ต้องขังที่ทำหน้าที่ส่งอาหารไปแดนต่างๆ ก็ต้องสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเช่นกัน
นายอายุตม์ กล่าวด้วยว่า กรมราชทัณฑ์ ขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินการ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการสนับสนุนสิ่งของต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่ร่วมบริจาคให้แก่กรมราชทัณฑ์ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตลอดจนเรือนจำทัณฑสถานทั่วประเทศ ซึ่งเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งของที่ได้รับมา กรมราชทัณฑ์จะส่งมอบต่อไปยังเรือนจำ/ทัณฑสถานต่างๆ ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ต้องขังทุกคน