“สส.ปชน.” เผย กมธ.ต่างประเทศ ผิดหวัง “กต.”ไม่แอ็คทีฟกรณีพม่ายิงเรือประมงไทย -จับลูกเรือ 4 คน ซัดผ่านไป 3 สัปดาห์ยังไม่รู้ถูกจับน่านน้ำใคร จี้ “นายกฯอิ๊งค์” สั่งการเชิงรุก เหน็บ หรือกลัวเสียผลประโยชน์คนบางกลุ่มกับประเทศเพื่อนบ้าน
วันที่ 13 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ฯได้พิจารณากรณีเมียนมายิงเรือประมงไทย ตรงบริเวณน่านน้ำทะเลอันดามัน จังหวัดระนอง รอยต่อของคืนวันที่ 19-20 พ.ย. โดยเชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศและสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) มาชี้แจงและรายงานสถานการณ์ ซึ่งตนขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประประสิทธิภาพในการตอบสนองเหตุการณ์ของหน่วยงานของไทยในเหตุการณ์ครั้งนี้ และเชื่อว่ากมธ.ฯหลายคนที่อยู่ในที่ประชุมคงผิดหวังเช่นกัน
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจากสองหน่วยงานนี้ยังไม่ทราบว่าจริงๆแล้วจุดที่เกิดเหตุเกิดขึ้นตรงไหนหมายความว่าไม่รู้ว่าเกิดในน่านน้ำไทยหรือในน่านน้ำของเมียนมา หมายความว่า ตอนนี้ไทยเองยังไม่รู้ว่าเรือประมงไทยที่มีทั้งหมด 5 ลำ และถูกทหารเรือเมียนมาจับไปหนึ่งลำนั้น ลำรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาหรือไม่ หรือตอนถูกยิง เรือประมงไทยอยู่ในน่านน้ำไทย แล้วเราจะไปประท้วงเมียนมาว่าอย่างไร ร้ายไปกว่านั้นคือทางการไทยได้ขอให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ แต่จนถึงบัดนี้ทางการไทยยังไม่มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนว่าจริงๆแล้วเรือประมงไทยที่ถูกหารเรือเมียนมายิงและถูกจับไปนั้นมีการรุกล้ำน่านน้ำของเมียนมาจริงหรือไม่ หรือเหตุเกิดในน้ำไทย
“หากเราไม่ตั้งคณะสอบสวนของเราเองขึ้นมาและรอฟังผลการสอบสวนของฝ่ายพม่า แน่นอนว่าผลการสอบสวนของพม่าย่อมต้องบอกว่าเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำของพม่าเขา ใครเขาจะมาบอกว่าเรือไทยที่ถูกยิงขณะอยู่ในเขตน่านน้ำไทย การตั้งคณะสอบสวนฝ่ายไทยก็ไม่ได้กระทบกับความปลอดภัยของลูกเรือประมงไทย 4คนที่ยังถูกทหารพม่าจับไว้ เพราะเป็นเรื่องภายในของไทยที่เราสอบหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ทำไมเราไม่ค้นหาข้อเท็จจริงตอนนี้ จะรออะไร เรือประมงไทยที่ถูกทหารเรือพม่ายิงมีทั้งหมด 5 ลำ ถูกจับไป 1 ลำ หนีรอดมาได้4ลำ ท่านได้สอบหาข้อได้จริงจากเรือประมงสีดำที่รอดมาได้หรือยัง คณะผู้ที่มาชี้แจงก็ตอบไม่ได้ ผมจึงขอแสดงความผิดหวังถึงความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลชุดนี้ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นการรุกล้ำอธิปไตยในน่านน้ำไทย หลังเหตุการณ์ผ่านมา 3 สัปดาห์ แต่ทางการไทยยังไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตรงไหน เรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำพม่าหรือไม่ หรือในทางกลับกันเรือรบพม่ารุกล้ำน่านน้ำไทยเข้ามายิงเรือไทยจนมีคนไทยเสียชีวิตและคนไทยถูกจับไปในขณะอยู่บนน่านน้ำไทยหรือไม่”นายจุลพงษ์ กล่าว
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า อยากตั้งคำถามไปยัง รมว.ต่างประเทศว่าทำได้แค่ลงบันทึก ช่วยจำให้เมียนมาสอบสวนเรื่องนี้ และรอให้เมียนมาปล่อยคนไทยเท่านั้นหรือ จะทำอะไรในเชิงรุกที่แสดงว่ากระทรวงการต่างประเทศใช้วิธีทางการทูตที่แสดงความแข็งกร้าวที่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดน่านน้ำไทยหรือไม่ หากทำได้แค่นี้ นายกฯควรต้องลงมาสั่งการเอง ให้หน่วยงานไทย ภายใต้บังคับบัญชาทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการให้ใช้กำลังทหาร แต่การกำหนดท่าทีและนโยบายต่างประเทศของไทย ที่ไม่ชัดเจนจะก่อให้เกิดปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้ยังมองว่าการกลัวเสียความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มที่มีกับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่