วันอาทิตย์, ธันวาคม 22, 2024
หน้าแรกNEWS“โรม” ผิดหวังไร้คำตอบ 4 ลูกเรือไทยจะได้กลับมาตุภูมิเมื่อใด แนะรัฐบาลต้องประท้วงเข้มแข็งมากกว่านี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“โรม” ผิดหวังไร้คำตอบ 4 ลูกเรือไทยจะได้กลับมาตุภูมิเมื่อใด แนะรัฐบาลต้องประท้วงเข้มแข็งมากกว่านี้

“กมธ.มั่นคง” ผิดหวังไร้คำตอบ 4 ลูกเรือไทยจะได้กลับมาตุภูมิเมื่อใด แนะรัฐบาลต้องประท้วงเข้มแข็งมากกว่านี้ รับหน่วยงานเกี่ยวข้องทำเต็มที่แล้ว จวกพม่าทำเกินกว่าเหตุ ลูกเรือคอลหากมธ.มั่นคงฯ เล่าเหตุการณ์ถูกไล่ยิงไม่หยุด อ้างข้อมูลปล่อยตัวช้าเหตุมีลูกเรือชาวเมียนมาต่อต้านรัฐบาล ชี้ไม่เกี่ยวประมงไทย

วันที่ 13 ธ.ค.2567 เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวภายหลังการประชุมที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงกรณีเรือประมงไทยถูกทหารเมียนมายิงว่า ต้องยอมรับยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วหรือป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ แต่สิ่งที่ต้องย้ำเตือนคือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประมงไทยเป็นเหตุการณ์เกินกว่าเหตุมาก ซึ่งได้รับข้อมูลว่าได้มีการใช้กลไกคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย – เมียนมา หรือTBC ในการคัดค้าน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วใช้ความรุนแรงเช่นนี้แล้ว ตนมีความเห็นว่าเรื่องนี้ท่าทีของไทยควรจะเป็นท่าทีที่ต้องเข้มแข็งมากกว่านี้ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศก็พยายามติดตามช่วยเหลือ 4 คนไทย ซึ่งก็ได้ให้กำลังใจกับหน่วยงานของรัฐในการช่วยเหลือคนไทย แต่ก็ไม่สามารถได้ตอบได้ว่าเมื่อใดที่คนไทยทั้ง 4 คนจะกลับสู่มาตุภูมิ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องติดตามต่อไป และจะแสวงหาข้อมูลจากทางอื่นๆ ทั้งนี้ทราบพิกัดจุดเกิดเหตุแล้ว แต่สาระสำคัญคือความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางการไทยอาจต้องแสดงท่าทีที่เข้มแข็ง ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ที่เกิดขึ้นโดยกองทัพเรือของเมียนมาเกินกว่าเหตุและไทยไม่สามารถยอมรับได้ เราอาจจะต้องประท้วงในลักษณะเข้มแข็งมากกว่านี้

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า ตอบยากมากเรื่องความชัดเจนว่าคนไทย 4 คนจะได้กลับเมื่อใด เพราะอยูที่ทางการเมียนมาจะส่งคนไทยให้หรือไม่ พร้อมย้ำไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ว่า ลูกเรือประมงคนไทยจะกลับสู่มาตุภูมิเมื่อใด และเรือประมงที่ถูกยิงเสียหายใครจะเป็นคนจ่ายชดใช้ค่าเสียหาย ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือประมง ไม่มีการเตือนหรือแจ้งล่วงหน้า แต่เป็นการยิงเข้ากลางลำเรือ อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้หลักสิบถ้าไม่หนี และวันนี้ลูกเรือไทยผู้ร้องที่ถูกยิงเฉียดศีรษะและอยู่ในเหตุการณ์วีดีโอคอลมาเล่าให้กรรมาธิการฯฟังว่าพยายามหนีเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิง แม้จะขับเรือออกห่างจากเรือที่ยิง ก็ยังมีการไล่ยิงต่อ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่เราได้รับ แสดงให้เห็นว่ากองทัพเรือเมียนมาใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะเรือที่ติดธงชาติไทย  ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ว่าพื้นที่ตรงนั้นอาจจะยังไม่มีความชัดเจนหรือเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่วิธีการนี้เป็นวิธีการรุนแรงและทำลายความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลอื่นนอกจากเป็นเรือประมงปกติหรือไม่ทำให้เมียนมาไม่ยอมปล่อยตัว นายรังสิมันต์  ยอมรับว่ามีข้อมูลในทำนองว่าทางเมียนมามองว่าลูกเรือบางคนที่เป็นคนเมียนมา อาจเกี่ยวข้องกับการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง แต่เป็นคนละเรื่องกับลูกเรือของไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่าจากเดิมได้รับข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศว่าวันที่ 5 ธันวาคมลูกเรือทั้ง 4 ควรจะได้กลับบ้านแต่ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าสุดท้ายเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่สามารถกลับได้ และไม่มีคำอธิบายชี้แจงใดๆ เบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามช่วยเหลือลูกเรือ ไม่ได้มีแนวทางว่าจะเพิ่มแรงกดดันไปมากกว่านี้ ไม่มีข้อมูลไหลเข้าสู่กรรมาธิการเรื่องแนวทางที่จะมีการยกระดับไปมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลควรจะยกระดับเพื่อช่วยเหลือ

“ผมเห็นว่าท่าทีของรัฐบาลไทยอ่อนเกินไป ควรจะทำให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะปกป้องได้ ขณะที่ผู้ปฏิบัติงานตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือส่วนหัวหรือรัฐบาลจะเอาอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลควรต้องสร้างหลักประกันให้คนไทยว่าตกลงจะได้รับความปลอดภัย ต้องแสดงท่าทีเข้มแข็งอยากเห็นความเป็นเอกภาพของทุกฝ่ายในการแสดงออกว่าเราพร้อมที่จะปกป้องคนไทย ถ้าเรายังไม่มีความชัดเจนไม่ควรเอาเรื่องเขตการมาปนกับความก้าวร้าวแบบนี้ ถ้าล้ำจริงก็ไม่เห็นถึงขนาดต้องยิง ใช้มาตรการเบาไปหาหนักได้”นายรังสิมันต์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img