วันศุกร์, มกราคม 10, 2025
หน้าแรกHighlightแจ้งแล้ว3ข้อหาปมอบรมอาสาตำรวจจีน กมธ.ตร.หวั่นเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แจ้งแล้ว3ข้อหาปมอบรมอาสาตำรวจจีน กมธ.ตร.หวั่นเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ

กมธ.ตำรวจ” เผย ตร.แจ้ง 3 ข้อหาปมอบรมอาสาตำรวจจีน แจงอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน หวั่นผู้อบรมเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ คาด 15 วันรู้เรื่อง ด้าน “ทนายแจม” จี้ รบ.ให้ความสำคัญ หวั่น การกระทบความเชื่อมั่นต่างชาติ

วันที่ 9 ม.ค.2568 นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังประชุม กมธ.พิจารณาจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจคนจีนของม.สยาม ที่มีการเก็บเงินค่าอบรม 38,000 บาท โดยผู้เข้าอบรมได้ประกาศนียบัตรเป็นตำรวจอาสาสมัครตำรวจคนจีน พร้อมเสื้อกั๊กและบัตรติดตราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ของดร.ลี่ช่าง และ ลี่ หมิง หลง ใน 3 ข้อหา ได้แก่ 1.ใช้อุปกรณ์ ที่มีโลโก้ตราตำรวจ 2.ใช้ตราราชการตำรวจโดยไม่รับอนุญาต และ 3. ใช้สัญลักษณ์สถาบันอุดมศึกษาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีสัญลักษณ์ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้แจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา ทางกมธ.ตั้งข้อสังเกตถึงการออกบัตรอาสานั้น ตำรวจผู้เซนบัตรมีความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งเราได้รับคำชี้แจงจากพ.ต.อ. นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3 ซึ่งเป็นเจ้าของลายเซนบนบัตรว่า ได้เซนเพียงบนใบประกาศนียบัตรเท่านั้น อาจจะมีการนำไปสแกนลงบัตรหรือไม่ ซึ่งทางกมธ.จึงได้สอบถามถึงความผิดทางอาญา จากการเซนใบประกาศในการอบรมหลักสูตรเถื่อนว่ามีความผิดหรือไม่ เพราะถือเป็นการยอมรับว่าหลักสูตรดังกล่าวถูกต้อง การสแกนลายเซนจากประกาศนียบัตรลงบัตร หากไม่ทราบก็คงเป็นไปไม่ได้ และหากบนบัตรมีลายเซนจะถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่เพราะถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ

นายชัยชนะ กล่าวว่า การสร้างหลักสูตรนี้ขึ้นมา ตนคาดการณ์ว่าเกิดจากการร่วมมือของนายลี่ชาง และข้าราชการตำรวจ เพื่อหารายได้ ส่วนเงินจะเข้ากระเป๋าใครนั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และผู้อบรมจำนวน 13 คน ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ จึงต้องส่งเรื่องให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบต่อไป รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้อบรมด้วยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ หากใครมีส่วนเกี่ยวข้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีทางอาญาต่อไป คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 15 วัน

เมื่อถามว่ามหาวิทยาลัยสยามยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่ทราบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทาง กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตถึงแผนปฏิบัติที่ทางมหาวิทยาลัยต้องทราบการขอใช้ห้องภายในมหาวิทยาลัย จะอ้างไม่ทราบว่าใครใช้ห้องไหนไม่ได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยยอมรับว่าหละหลวมในเรื่องนี้

ด้าน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนคาดหวังว่าผู้ชี้แจงจะเป็นระดับ ผบ.ตร. หรือ ผบ.ชน. มาชี้แจงด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครมาเลย เนื่องจากตนได้นำหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามามอบให้ทางกมธ. ซึ่งมีความเชื่อมโยง มีตัวละครเพิ่มขึ้น และเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ประธานสมาคมคนเดียวแน่นอน มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้วและอาจจะไม่ได้เกิดแค่ภายในประเทศ เพราะมีหลายคนที่ผ่านการอบรมหนีออกไปนอกประเทศไปแล้ว รวมถึงยังไม่ได้ความชัดเจนจากตำรวจ จึงอยากเรียกร้องให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่ความเสียหายจะมากเกินกว่าที่เราจะคาดการณ์ได้ และอยากให้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญเพราะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความมั่นคงของตำรวจอย่างเดียว แต่รวมไปถึงความมั่นคงทางธุรกิจด้วย เพราะเป็นความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักท่องเที่ยว ที่อาจจะรู้สึกว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img