วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“สธ.”โวลั่น 7 มิ.ย.นี้มีวัคซีนให้ฉีดแน่ ๆ ใครฉีดชนิดไหนให้หมอหน้างานตัดสิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สธ.”โวลั่น 7 มิ.ย.นี้มีวัคซีนให้ฉีดแน่ ๆ ใครฉีดชนิดไหนให้หมอหน้างานตัดสิน

“สธ.” ประชุมทางไกล สั่งทุกจังหวัดเตรียมพร้อมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด โวลั่น 7 มิ.ย.นี้ เน้นย้ำ “กลุ่มครู-การศึกษารับเปิดเทอม-คนแก่-7 กลุ่มโรค” ได้ฉีดแน่ๆ อันดับต้นๆ ย้ำใครจะได้ฉีดวัคซีนชนิดไหน เป็นไปตามหลักการแพทย์ ไม่ใช่หลักตามใจฉัน

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.64 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผอ.รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป เพื่อชี้แจงแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในเดือนมิ.ย.นี้ โดยจัดสรรตามแผนการจัดสรรของ ศบค. ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ โดยเน้นที่กลุ่มครู บุคลากรทางการศึกษา รองรับการเปิดภาคการศึกษา สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนมาแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะได้รับวัคซีนในใน 76 จังหวัด ไม่รวมกทม. มีหลากหลายช่องทาง เริ่มลงทะเบียนวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ได้แก่ ไลน์/ แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” แอพพลิเคชันของจังหวัด ผ่าน อสม. และ รพ.สต. หรือติดต่อรพ.ใกล้บ้าน เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะสู่ระบบฐานข้อมูล MOHP IC และหมอพร้อม จะติดตามอาการ นัดหมายฉีดครั้งที่ 2 รวมทั้งออกเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการประชุมทางไกลฯ เป็นการทำความเข้าใจเรื่องการกระจายวัคซีน และสร้างความมั่นใจให้จังหวัดว่ามิ.ย.ฉีดแน่นอน ซึ่งวันที่นัดหมายคือ 7 มิ.ย. นี้ มีวัคซีนให้ฉีดแน่ จึงให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม และฉีดเข็มแรกให้ได้ 50 ล้านโด๊สภายในเดือนก.ย.นี้ ส่วนเรื่องโควตานั้น ศบค.เป็นผู้กำหนด จะดูตาม 1.จำนวนประชากร 2.ดูสถานการณ์การระบาด 3.ดูกลุ่มเป้าหมายจังหวัดที่เป็นนโยบาย เช่นภูเก็ต ที่มีนโยบายชัดเจนว่าจะฉีดเพื่อเปิดจังหวัดกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ก็ต้องฉีดให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย. เพื่อให้สามารถเปิดในเดือนก.ค. เบื้องต้นในพื้นที่กทม. ก็จะให้ทางกทม.เป็นผู้บริหารจัดการ เรื่องตัวเลขจะมีการเคาะอีกครั้ง ส่วนโควตาประกันสังคมก็รอ ศบค. เคาะอีกทีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การกระจายวัคซีนในต่างจังหวัดนั้น มีการปรับแผนจากการกระจายรายเดือนมาเป็นการกระจายเป็นรายสัปดาห์ เพื่อจะได้ดูว่าวิธีการฉีด ยอดการฉีดเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ถ้าจังหวัดใดฉีดได้ครบ ตรงตามเป้าหมายก็จะส่งให้ตามกำหนด แต่ถ้าฉีดช้าก็ไม่จำเป็นต้องส่งไปเพิ่ม เป็นต้น นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องของการลงข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อให้ทราบสถานการณ์ว่าการฉีดวัคซีนแต่ละวันนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ และสต๊อกคงเหลือเท่าไหร่

“การฉีดวัคซีนเป็นไปตามที่ ศบค. กำหนด ก็จะใช้สถานการณ์การระบาดประกอบกันจังหวัดที่มีการระบาดมากก็จะส่งวัคซีนเข้าไปเพื่อฉีดให้ชุมชนรอบๆ คือต้องเข้าใจก่อนว่า แต่ละจังหวัดเวลาระบาดนั้นไม่ได้ระบาดทุกอำเภอ ทุกพื้นที่ สมมติจังหวัดหนึ่งมีประชากรอยู่ 1 ล้านคน แต่ถ้าระบาดใน 1 อำเภอ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะส่งวัคซีนลงไปจำนวนหนึ่งล้านโด๊ส จะต้องดูว่าจำเป็นจะต้องฉีดประชากรเท่าไหร่ แล้วก็ส่งลงไปฉีดตรงจุดนั้น แต่โดยหลักการคือจะให้ทุกจังหวัดได้มีการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงและเกิดความเป็นธรรม ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ ครบทุกจังหวัด โดยผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ที่ลงทะเบียนกับหมอพร้อมได้รับอันดับต้นๆ”นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า เนื่องจากเรามีวัคซีน 2 ตัว ทั้งซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า การฉีดชนิดใดให้ประชาชนนั้นให้อิงตามหลักการแพทย์และสาธารณสุข อาจจะยืดหยุ่นได้บางกรณีเช่น แพ้วัคซีนซิโนแวคใจเข้มแรก เข็ม 2 ก็ฉีดของแอสตร้า ฯ อย่างไรก็ตาม วัคซีนทั้ง 2 ชนิดนั้น สามารถฉีดได้ทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการด้านวิชาการครบถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้การเลือกชนิดวัคซีนนั้น ให้แพทย์เป็นผู้ตัดสินใจในหน้างาน โดยยึดหลักการแพทย์และสาธารณสุขเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดตามหลัก “ตามใจฉัน”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img