“เมืองเลสเตอร์” เปิดไต่สวนกรณีอุบัติเหตุ “เฮลิคอปเตอร์” ของ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ตกเมื่อปี 61 หลังรายงานการสอบสวนของ AAIB ชี้ชัดต้นเหตุมาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่และระบบควบคุมใบพัดหาง “ครอบครัวผู้เสียชีวิต” หวังให้การไต่สวนครั้งนี้ นำไปสู่คำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในอนาคต และไม่เกิดซ้ำรอยกับครอบครัวผู้อื่น
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหราชอาณาจักร “เมืองเลสเตอร์” เปิดการไต่สวนกรณีเฮลิคอปเตอร์เลโอนาร์โด AW169 ตกที่สนามฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.61 เป็นเหตุให้ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธาน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ เสียชีวิตพร้อมนักบินและผู้ติดตามอีก 4 คน โดยการไต่สวนจะดำเนินการโดยศาสตราจารย์แคทเธอรีน เมสัน ต่อหน้าคณะลูกขุน ณ ศาลากลางเมืองเลสเตอร์ จนถึงวันที่ 31 ม.ค.68
สำนักงานทนายความ Stewarts โดย “ซาราห์ สจ๊วต” และ “ปีเตอร์ นีแนน” และทนายความอาวุโส ฟิลิป เชพเพิร์ด และบาจุล ชาห์ ได้รับมอบหมายจากครอบครัวศรีวัฒนประภา ครอบครัวกัปตันเอริก สวอฟเฟอร์ และครอบครัวกัปตันอิสซาเบลลา โรซา เลโควิช ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ให้เข้าร่วมการไต่สวนในนามของครอบครัวผู้เสียชีวิตดังกล่าว
การไต่สวนคดีนี้ถูกระงับไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อรอรายงานการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (Air Accident Investigation Branch-AAIB) ของประเทศอังกฤษ ความยาว 209 หน้า ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ซึ่งได้ระบุปัญหาของระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวและการดำเนินการของเลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A) บริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์สัญชาติอิตาลี
รายงานของ AAIB สรุปสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้ว่า มาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่และระบบควบคุมใบพัดหาง ซึ่งบริษัท เลโดอนาร์โดฯ ได้ระบุไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และหากเกิดการล้มเหลว จะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นหายนะ ความล้มเหลวดังกล่าวส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์สูญเสียการควบคุมและหมุนคว้างอย่างรุนแรง จนตกลงมาสู่พื้นดิน ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ในที่สุด
รายงานของ AAIB ยังระบุอย่างชัดเจนอีกว่า ไม่มีสิ่งใดที่นักบินจะสามารถทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ การไต่สวนนี้จะรับฟังข้อเท็จจริงจากครอบครัวของผู้เสียชีวิต พยานในเหตุการณ์ และหน่วยงานฉุกเฉิน รวมถึงเจ้าหน้าที่จาก AAIB เกี่ยวกับผลการสืบสวน ข้อเสนอแนะด้านความปลอดภัย และการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะเหล่านั้น นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะได้รับพยานหลักฐานจาก “เลโอนาร์โด” และบุคคลอื่นๆ เกี่ยวกับการดำเนินการต่ออุบัติเหตุครั้งนี้ รวมถึงข้อมูลว่า “เลโอนาร์โด” ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลครบถ้วนแล้วหรือไม่
ครอบครัวผู้เสียชีวิตหวังว่าการไต่สวนครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาได้รับคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 27 ต.ค.61 และอุปสรรคที่ให้ AAIB ใช้เวลานานเกือบ 5 ปีในการสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังหวังว่า การไต่สวนครั้งนี้จะนำไปสู่คำแนะนำเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในอนาคตอีกด้วย
ด้านคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายของ “คุณวิชัย” ผู้สืบทอดธุรกิจกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “ครอบครัวของผมเชื่อมั่นในกระบวนการไต่สวนนี้ และหวังว่าจะได้รับคำอธิบายถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผมต้องการที่จะมั่นใจว่า เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยกับครอบครัวของผู้อื่น และจะต้องไม่มีใครมาทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดซ้ำๆ เฉกเช่นที่ครอบครัวเราต้องเผชิญ”
ด้านคุณเคท เลโควิช น้องสาวของกัปตันอิสซาเบลลา เลโควิช กล่าวว่า “การรอคอยการไต่สวนครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ทรมานใจมาก เราต้องจมอยู่กับคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบและความคับข้องใจที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี นับตั้งแต่การสูญเสียอันน่าเศร้าของเอริก และอิสซาเบลลา ความปลอดภัยด้านการบินเป็นสิ่งที่ทั้งสองให้ความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาคงเฝ้าดูจากที่ไกลโพ้นด้วยความหวังที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยป้องกันโศกนาฏกรรมเช่นนี้ในอนาคต ลูกๆ ของเราไม่มีโอกาสที่จะได้รู้จักกับลุงและป้าของพวกเขา หรือผจญภัยไปพร้อมกับพวกเขา จะได้ก็แค่เพียงมองผ่านรูปถ่ายที่เรามีในบ้านและเรื่องราวที่เราถ่ายทอดจากความทรงจำของเรา เราคิดถึงพวกเขาอย่างสุดหัวใจเสมอ”
ด้านคุณซาราห์ สจ๊วต ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย Stewarts กล่าวว่า “การไต่สวนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความยุติธรรมและความจริงสำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ เวลาผ่านไปกว่า 6 ปีแล้ว วันนี้พวกเขากำลังจะได้รับคำตอบเกี่ยวกับสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนั้น และทราบว่าบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร มีบทเรียนสำคัญที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงและกระบวนการด้านความปลอดภัยในการบินมากมาย แม้ว่าคำตัดสินของคณะลูกขุนจะไม่สามารถนำคนที่รักของพวกเขากลับมาได้ แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าคำตัดสินจะนำไปสู่การพัฒนาความปลอดภัยทางการบินในอนาคตได้”
