วันอังคาร, มกราคม 21, 2025
หน้าแรกNEWSเชิญ “ตำรวจท่องเที่ยว-ททท.” วางมาตรการคุมเข้มให้นักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน-สงกรานต์
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เชิญ “ตำรวจท่องเที่ยว-ททท.” วางมาตรการคุมเข้มให้นักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน-สงกรานต์

“กมธ.ท่องเที่ยว” วุฒิฯเชิญ “ตำรวจท่องเที่ยว-ททท.” วางมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน-สงกรานต์ หลังนทท.จีนยกเลิกที่พักร้อยละ 10  พร้อมชูแอพ “thailand tourist police” สื่อสารช่วยเหลือ ด้าน รอง ผบช.ทท.ยัน ไทยไม่มีเอี่ยวอุ้มนักท่องเที่ยวเรียกค่าไถ่ พร้อมหนุนฟรีวีซ่า แนะ “รัฐบาล-หน่วยงาน” เข้มงวดคัดกรองให้เช่าที่พักต้องแจ้ง “จนท.” เตือนระวังนักท่องเที่ยวมาในคราบมิจฉาชีพ หากพบ นักท่องเที่ยวเช่าที่พักทำผิดกฎหมาย-ฟอกเงิน

วันที่ 21 ม.ค.2568 เวลา 13.40 น.ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา นำโดย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง รองประธานกมธ.นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ ที่ปรึกษากมธ. และนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ ที่ปรึกษา ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและ ททท. แถลงถึงผลการพิจารณาการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวจีนต่อประเทศ หลังเกิดกรณีนักแสดงชาวจีนถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงซึ่งมีประเทศไทยเป็นจุดเกิดเหตุ ซึ่งเชิญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและตำรวจท่องเที่ยวเข้าชี้แจง

พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น พบว่ามีการสร้างข่าวเท็จว่ามีตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลง 30% แต่ข้อเท็จจริงแล้วมีเพียง 10% เท่านั้น อย่างไรก็ดีการลดลงดังกล่าวถือว่าไม่สมควร ทั้งนี้ในกรณีต้นเหตุของปัญหาที่หลายฝ่ายมองว่าเกิดจากนโยบายของรัฐบาลเรื่องฟรีวีซ่าและมีข้อเรียกร้องให้ทบทวนนั้น ตนมองว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องพิจารณา โดยการเปิดฟรีวีซ่ามีทั้งผลบวกและลบ เช่น จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาง่าย แต่หากคัดกรองไม่ดีอาจทำให้คนไม่ดีเข้ามาได้ง่ายด้วย และแม้จะไม่เปิดฟรีวีซ่าคนไม่ดีสามารถเข้ามาได้เช่นเดียวกัน

“การฟรีวีซ่าไม่ทำให้เกิดอาชญากรรมในประเทศ แต่จะเป็นส่วนที่ทำเงินตรา และประโยชน์จะได้รับคือการท่องเที่ยวที่ดี แต่ที่กังวลต้องไม่มีคนไม่ดีเข้ามาต้องกำกับให้ได้ นอกจากนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีข่าวออกมาว่า มีนักท่องเที่ยวถูกหลอกว่าเดินทางมาไทยจะไปที่วัดพระแก้ว ปรากฏว่าแจ้งต่อนักท่องเที่ยวว่าปิดแล้ว และพาไปที่อื่น แต่เมื่อมีการตรวจสอบพบว่าภาพที่นำไปหลอกลวงต่อนักท่องเที่ยวเป็นภาพเก่า 2ปีที่แล้ว” พล.ต.ต.อังกูรกล่าว

ด้านพล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือ รอง ผบช.ทท. ได้ประชาสัมพันธ์แอพพลิเคชั่น thailand tourist police ที่จะทำขึ้นเพื่อประสานกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการอำนวยความสะดวกและให้บริการด้านความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจะเกิดปัญหาเรื่องการลืมของในรถแท็กซี่ ปัญหาการโก่งราคาซื้อสินค้า หรือการถูกการให้หลอกเลือกสถานที่ท่องเที่ยว สามารถติดต่อประสานกับตำรวจท่องเที่ยวผ่านแอพพลิเคชั่นนี้ได้โดยเร็ว

“เหตุต่างๆที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดขอยืนยันว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวใน เป็นนักเที่ยวจริงๆไม่เคยเกิดเหตุอย่างที่เป็นข่าว สิ่งที่เป็นข่าวมาเป็นเป็นการหลอกลวงของกลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เพิ่งออกมาจากประเทศต้นทางแล้วใช้ประเทศไทยเป็นประเทศเดินทางผ่านเพื่อไปอีกประเทศ ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาเที่ยวเมืองไทยแล้วถูกหลอก หรือถูกเรียกค่าไถ่ถูกจับตัวไปอย่างที่เป็นข่าว ขอให้เชื่อมั่นว่ามาเชื่อมเมืองไทยจะมีความปลอดภัยไม่ต้องห่วงเรื่องการถูกหลอกลวงหรือการถูกลักพาตัวไป“ พล.ต.ต.กฤษณ์กล่าว และว่าขณะเดียวกันมีการตั้งศูนย์ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวโดยบริษัทสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อยกระดับดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ประสานกับตำรวจทั่วประเทศ

ส่วนการทำงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีการมอนิเตอร์ข่าวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยในโซเชียล โดยเฉพาะกรณีที่เป็นข่าวลือที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ข่าวโดยทันทีทันใด และชี้แจงข้อเท็จจริง ประชาสัมพันธ์เชิงบวก พร้อมตอกย้ำความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้

ขณะที่นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า นโยบาฟรีวีซ่าว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะส่งเสริมนักท่องเที่ยว แต่ต้องคัดกรองให้เข้มข้น  เช่น ในชั้นของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องชี้แจงตั๋วโดยสาร ทั้งไป และ กลับ พอกเก็ตมันนี่ รวมถึงแพลนการท่องเที่ยว การพักอาศัย เป็นต้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจหลักคือการท่องเที่ยว แต่มีสิ่งที่รัฐบาลต้องทำเพิ่มคือ การคัดกรอง ที่ต้องร่วมมือจากหลายหน่วยงาน นอกจาก ตม. แล้วคือ การท่าอากาศยาน ที่ต้องช่วยดูเรื่องรถตู้โดยสารที่เข้ามารับนักท่องเที่ยว ต้องตรวจสอบว่ามารับใคร ด้วยวัตถุประสงค์อะไร

เมื่อถามว่ากมธ.ท่องเที่ยว ได้ศึกษาหรือไม่ว่าประเด็นจีนเทามีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยหรือไม่ นายพิสิษฐ์ กล่าวว่า  กมธ.ได้เชิญหน่วยงานได้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง เพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริง ทั้งนี้จะศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยตรง โดยเฉพาะการเปิดฟรีวีซ่าต้องคัดกรองอย่างไรเพื่อให้ได้การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและได้ปริมาณของนักท่องเที่ยว

ด้านนางประทุม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายฟรีวีซ่า แต่ต้องคัดกรอง ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่การท่องเที่ยว แต่คือ มิจฉาชีพที่มาในคราบของนักท่องเที่ยว และอาศัยอยู่ในประเทศเกินกำหนด  เช่าห้องพัก ในพูลวิลล่า คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร เพื่อประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และฟอกเงิน ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ บังคับใช้กฎหมายเต็มที่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการให้เช่าที่พักอาศัยหากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ อย่าเห็นแก่ได้

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img