วันอาทิตย์, มกราคม 26, 2025
หน้าแรกHighlightหมอเตือนวันนี้“หมอกมรณะ”ลงหนักมาก เกินปลอดภัย20เท่า-ให้งดออกนอกบ้าน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หมอเตือนวันนี้“หมอกมรณะ”ลงหนักมาก เกินปลอดภัย20เท่า-ให้งดออกนอกบ้าน

“หมอโอ๊ค” เตือนวันนี้ฝุ่นลงหนักมาก เกินจุดปลอดภัย 20 เท่า! ห้ามออกนอกบ้านถ้าไม่ใส่หน้ากากเด็ดขาด เพราะระดับทำลายล้างตั้งแต่หัวจรดเท้า

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.68 นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล นายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล (โอ๊ค) เจ้าของเพจ หมอโอ๊ค DoctorSixpack ได้โพสต์ย้ำถึงพิษภัยของฝุ่น PM2.5 ว่า ห้ามออกนอกบ้าน ถ้าไม่ใส่หน้ากาก เด็ดขาดครับ! หมอกมรณะ ฝุ่นวันนี้ หนักหนามากๆ มะเร็งปอด ระดับความตาย 110ug/m3 ซึ่งระดับที่ปอดภัย คือ 5ug/m3 เราเกินจุดนั้น 20 เท่า!

10 โรคร้ายจาก PM2.5: เจาะลึกกลไกการทำลายล้างตั้งแต่หัวจรดเท้า! 🔬

สวัสดีครับเพื่อนๆ หมอโอ๊คกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภัยอันตรายของฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันแบบละเอียดๆ ถึง 10 โรคร้ายที่เกิดจาก PM2.5 พร้อมกลไกการทำลายล้างตั้งแต่หัวจรดเท้า! แน่นอนว่า หมอโอ๊คมีงานวิจัยมาอ้างอิงให้เพื่อนๆ มั่นใจในข้อมูลด้วยนะครับ

1.โรคระบบประสาท

    • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่สมองได้โดยตรง ผ่านทางเส้นประสาทรับกลิ่น หรือผ่านทางกระแสเลือด 🩸 🧠 เมื่อเข้าสู่สมองแล้ว จะก่อให้เกิดการอักเสบ oxidative stress และทำลายเซลล์สมอง ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
    • โรคหลอดเลือดสมอง: เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก ทำให้สมองขาดเลือด เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต พูดไม่ชัด
    • โรคอัลไซเมอร์: เกิดการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมอง ทำให้เซลล์สมองตาย ส่งผลต่อความจำ การเรียนรู้ และพฤติกรรม
    • โรคพาร์กินสัน: เซลล์สมองส่วนที่ผลิตสารโดปามีนถูกทำลาย ทำให้เกิดอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง และเสียการทรงตัว
    • ภาวะสมองเสื่อม: การทำงานของสมองเสื่อมถอยลง ส่งผลต่อความจำ การคิด การตัดสินใจ และพฤติกรรม
      ผลการวิจัย:
    • การศึกษาในประเทศจีนพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Chen R et al., Stroke, 2013)
    • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ (Cacciottolo M et al., Nature Reviews Neurology, 2017)

    2.โรคตา

      • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา เยื่อบุตาอักเสบ และอาจเข้าสู่ดวงตาโดยตรง ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
      • โรคต้อกระจก: เลนส์ตาขุ่นมัว ทำให้มองเห็นภาพไม่ชัดเจน
      • โรคต้อหิน: ความดันในลูกตาสูง ทำลายเส้นประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็น
      • โรคจอประสาทตาเสื่อม: เซลล์รับภาพที่จอประสาทตาเสื่อม ทำให้สูญเสียการมองเห็นส่วนกลาง
        ผลการวิจัย:
      • การศึกษาในไต้หวันพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อกระจก (Tsai SY et al., JAMA Ophthalmology, 2016)
      • การศึกษาในเกาหลีใต้พบว่า PM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคต้อหิน (Kim JH et al., Investigative Ophthalmology & Visual Science, 2016)

      3.โรคระบบทางเดินหายใจ 🫁

        • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และทำลายเนื้อเยื่อปอด ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
        • โรคหอบหืด: หลอดลมหดตัว ทำให้หายใจลำบาก มีเสียงหวีด ไอ และแน่นหน้าอก
        • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): ถุงลมในปอดถูกทำลาย ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง และมีเสมหะ
        • โรคหลอดลมอักเสบ: หลอดลมอักเสบ ทำให้ไอ มีเสมหะ และหายใจลำบาก
        • โรคปอดบวม: เกิดการติดเชื้อในปอด ทำให้มีไข้ ไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก และเจ็บหน้าอก
        • โรคมะเร็งปอด: สารก่อมะเร็งใน PM2.5 ทำให้เซลล์ปอดผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอด

        ผลการวิจัย:

        • การศึกษาในยุโรปพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก (Gehring U et al., European Respiratory Journal, 2010)
        • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจาก COPD (Dominici F et al., New England Journal of Medicine, 2006)

        4.โรคหัวใจและหลอดเลือด

          • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ดังนี้
          • โรคหลอดเลือดหัวใจ: หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ เกิดอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย และอาจทำให้หัวใจวายได้
          • โรคหลอดเลือดสมอง: หลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ทำให้สมองขาดเลือด เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต พูดไม่ชัด และอาจทำให้เสียชีวิตได้
          • โรคความดันโลหิตสูง: PM2.5 ทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มความดันโลหิต ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง
          • ภาวะหัวใจล้มเหลว: หัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่ดี ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย บวม และหายใจลำบาก
            ผลการวิจัย:
          • การศึกษาในหลายประเทศพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด (Brook RD et al., Circulation, 2010)
          • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว (Pope CA III et al., Journal of the American Heart Association, 2015)

          5.โรคระบบทางเดินอาหาร

            • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 อาจเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร โดยการกลืนฝุ่นที่ปนเปื้อนในน้ำลาย หรืออาหาร และอาจส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
            • โรคลำไส้อักเสบ: ลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็กอักเสบ ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด และมีไข้
            • โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่: PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
            • โรคกรดไหลย้อน: PM2.5 อาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน เช่น แสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว และมีรสขมในปาก
              ผลการวิจัย:
            • การศึกษาในแคนาดาพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากโรคลำไส้อักเสบ (Kaplan GG et al., American Journal of Gastroenterology, 2012)
            • การศึกษาในไต้หวันพบว่า PM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Chen PC et al., Environmental Research, 2016)

            6.โรคตับ

              • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 เข้าสู่กระแสเลือด และไปสะสมที่ตับ ทำให้เกิดการอักเสบ และทำลายเซลล์ตับ ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
              • ภาวะไขมันพอกตับ: มีไขมันสะสมในตับมากเกินไป ทำให้ตับทำงานผิดปกติ
              • โรคตับอักเสบ: ตับอักเสบ ทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย
              • โรคตับแข็ง: ตับถูกทำลาย และมีพังผืดเกิดขึ้น ทำให้ตับทำงานผิดปกติ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
                ผลการวิจัย:
              • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับ (Wei Y et al., Journal of Hepatology, 2013)
              • การศึกษาในจีนพบว่า PM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคตับแข็ง (Zhang X et al., Journal of Gastroenterology and Hepatology, 2015)

              7.โรคไต

                • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 เข้าสู่กระแสเลือด และไปสะสมที่ไต ทำให้เกิดการอักเสบ และทำลายไต ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
                • โรคไตเรื้อรัง: ไตทำงานผิดปกติ ไม่สามารถกรองของเสียออกจากเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                • ภาวะไตวาย: ไตสูญเสียการทำงาน ทำให้ต้องฟอกเลือด หรือปลูกถ่ายไต
                  ผลการวิจัย:
                • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง (Miller KA et al., Journal of the American Society of Nephrology, 2012)
                • การศึกษาในไต้หวันพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคไต (Chang CC et al., The Lancet Respiratory Medicine, 2015)

                8.โรคผิวหนัง 😫

                  • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้เกิดผื่น คัน ผิวแห้ง และอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบต่างๆ เช่น
                  • โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง: ผิวหนังอักเสบ มีผื่นแดง คัน และผิวแห้ง
                  • โรคสะเก็ดเงิน: ผิวหนังมีสะเก็ด หนา และคัน
                  • สิว: PM2.5 อาจกระตุ้นให้เกิดสิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
                    ผลการวิจัย:
                  • การศึกษาในเกาหลีใต้พบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก (Ahn K et al., Journal of Investigative Dermatology, 2014)
                  • การศึกษาในจีนพบว่า PM2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคสะเก็ดเงิน (Li W et al., Journal of the European Academy of Dermatology and Venereology, 2016)

                  9.โรคเบาหวาน

                    • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 ส่งผลต่อการทำงานของอินซูลิน ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 2
                      ผลการวิจัย:
                    • การศึกษาในหลายประเทศพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Rajagopalan S et al., Diabetes Care, 2018)
                    • การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า PM2.5 ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานแย่ลง (Brook RD et al., Diabetes Care, 2013)

                    10.โรคมะเร็ง

                      • กลไกการเกิดโรค: PM2.5 มีสารก่อมะเร็งปนเปื้อนอยู่ เช่น โลหะหนัก สารไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ซึ่งสารเหล่านี้จะเข้าไปทำลาย DNA ของเซลล์ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ เช่น
                      • มะเร็งปอด: เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุด ที่เกี่ยวข้องกับ PM2.5
                      • มะเร็งลำไส้ใหญ่: PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
                      • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ: PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
                      • มะเร็งเต้านม: PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
                        ผลการวิจัย:
                      • องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ PM2.5 เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ซึ่งหมายความว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า PM2.5 ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ (IARC, 2013)
                      • การศึกษาในหลายประเทศพบว่า PM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งชนิดต่างๆ (Hamra GB et al., Environmental Health Perspectives, 2014)
                      • หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะครับ 😊 ดูแลสุขภาพ และป้องกันตัวเองจาก PM2.5 กันด้วยนะครับ 😷 แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ!
                      • ใครได้ประโยชน์อยาก ได้ความรู้เพิ่มเรื่องฝุ่นพีเอ็ม 2.5 คืนนี้หมอโอ๊คจะมาสอนใครอยากรู้ให้พิมพ์ว่า… ฝุ่น
                      - Advertisment -spot_imgspot_img
                      spot_imgspot_img
                      spot_imgspot_img
                      - Advertisment -spot_img
                      - Advertisment -spot_imgspot_img

                      Featured

                      - Advertisment -spot_img
                      spot_img
                      spot_img
                      Advertismentspot_imgspot_img
                      spot_imgspot_img