เพจ “ชมรมแพทย์ชนบท” แนะจับตา 2 ประเด็นหลังผ่านปรากฏการณ์ Kick Off 7 มิ.ย.ไปแล้ว สัปดาห์หน้าจะมีวัคซีนให้ฉีดหรือไม่-จัดสรรวัคซีนอย่างรัดกุมหรือไม่ เผยถ้าไม่มีก็ควรรีบสื่อสารแจ้งรพ.ทราบ จะได้เลื่อนนัดหมายผู้ลงทะเบียน เข้าทำนอง “มีก็บอกว่ามี-ไม่มีก็บอกว่าไม่มี”
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 เพจ “ชมรมแพทย์ชนบท” เสนอบทความเรื่อง “ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 7 : 08-06-64” ระบุว่า…เราเห็นอะไรและห่วงอะไรจากปรากฏการณ์วัน kick off 7 มิถุนายน ในที่สุดวัคซีนสำหรับการฉีดในวัน kick off 7 มิถุนายน 2564 ก็มาทันอย่างใจหายใจคว่ำ คือโรงพยาบาลส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนในวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน เล่นเอาคืนนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนอนดึกทุกคน เพราะต้องเตรียมการจัดการสำหรับการฉีดในวันรุ่งขึ้น โดยสรุปวัคซีนแอสตร้าลงไปในพื้นที่ทั้ง กทม.และต่างจังหวัดรวม 2 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนแอสตร้าเกาหลี ให้ไปแก้ขัด เผื่อว่าวัคซีนสยามไบโอไซแอนมาช้าจำนวน 2.4 แสนโดส และวัคซีนจากโรงงานสยามไบโอไซแอนที่มาเฉียดฉิวอีก 1.8 ล้านโดส รวมทั้งมีซิโนแวคกระจายลงไปเสริมอีก 7.5 แสนโดส
วัน kick off 7 มิถุนายน 2564 ดูจะราบนื่น สร้างความสุขให้กับประชาชนคนที่ได้ลงทะเบียนหมอพร้อมไว้มากพอควร วันที่ 7 วันเดียว มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปถึง 416,847 โดส ในจำนวนนี้กว่า 6 หมื่นโดสฉีดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เรียกว่าโรงพยาบาลต่างๆเร่งฉีดกันเต็มกำลัง เพราะเก็บกดรอวัคซีนมานาน จน รมต.อนุทิน ต้องออกมาเบรกว่า ปัญหาอยู่ที่โรงพยาบาลฉีดเร็วเกินไป เพราะวัคซีนจะทยอยมา ทำให้การฉีดวัคซีนขาดช่วง
ความน่าสนใจที่ชวนให้จับตามองมี 2 ประการคือ
1.หากฉีดในอัตรานี้คือ 4 แสนโดสต่อวัน ภายในสัปดาห์นี้ วัคซีนที่ได้มา 2.75 ล้านโดสรวมแอสตร้าและซิโนแวคจะหมดลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะน่าดีใจ แต่คำถามสำคัญคือ แล้วคนที่นัดรับวัคซีนในสัปดาห์หน้านั้น จะมีวัคซีนให้เขาฉีดไหม คือถ้ามั่นใจว่าในสัปดาห์หน้า วัคซีนไม่มีมาเพิ่มแน่แล้ว ต้องรอจนถึงสัปดาห์ที่สาม ก็ควรรีบสื่อสารแจ้งโรงพยาบาลทราบ เพื่อจะได้แจ้งเลื่อนผู้ที่ลงทะเบียนนัดหมายไว้ ไม่ใช่มาบอกกันวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อีก ขอให้เห็นใจคนหน้างานบ้าง
2.วัคซีนที่ได้มาแล้วและที่กำลังจะได้มา ได้ถูกจัดสรรไปอย่างรัดกุม สำหรับพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เพื่อยุติการระบาดในพื้นที่เมืองหลวง อย่างจริงจังหรือไม่เพียงใด พูดชัดๆ ก็คือ กรุงเทพมีหลายเขต บางเขตระบาดหนัก แต่บางเขตแทบไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดเลย แล้วผลการจัดสรรวัคซีนในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลนั้น ได้จัดสรรตรงลงเป้าในพื้นที่ระบาดหรือไม่ หรือเพียงเป็นการแบ่งแบบหารเท่าแบ่งๆ กันไป ซึ่งก็จะเป็นการเสียโอกาสในการควบคุมการระบาดไปอีกนับเดือน
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราผู้ปฏิบัติงานทุกคนเข้าใจว่า วัคซีนเป็นของหายาก วัคซีนมาทันหรือไม่ทันก็เข้าใจได้ สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุด ที่ของให้รัฐบาล ศบค.และ สธ. บอกกล่าวคือ “ความจริง” และ “ความชัดเจน” มีก็บอกว่ามี ไม่มีก็บอกว่าไม่มี มาทันมาไม่ทัน ก็บอกให้ชัด ความจริงจะสร้างความเข้าใจ วันที่ 7 เริ่มต้นมาค่อนข้างดีแล้ว หลังจากนี้ขอแต่ความจริงที่ชัดเจน เพื่อพื้นที่จะได้คิดต่อและบริหารจัดการต่อได้
