‘ประเสริฐ’ เผยคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ยังคงห้ามขายในวันพระใหญ่ 5 วัน ยกเว้นสนามบิน, สถานบริการ, สถานประกอบการเพื่อการท่องเที่ยว โรงแรม, สถานที่จัดกิจกรรมนานาชาติ ส่วนช่วงเวลาห้ามขาย 14.00-17.00 น. ต้องรอแก้ประกาศคณะปฏิวัติ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องของการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้สอดคล้องกับปีการท่องเที่ยวไทย 2568 โดยที่ประชุมเห็นว่ายังคงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันพระใหญ่ทั้ง 5 วันคือ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา, วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
แต่มีข้อยกเว้น การขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารในสนามบินที่ให้บริการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ, การขายในสถานบริการตามกฏหมายว่าด้วยสถานบริการ, การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว, การขายในโรงแรมตามกฏหมายว่าด้วยโรงแรม, การขายในสถานที่ซึ่งจัดกิจกรรมระดับชาติ หรือ นานาชาติ
ขณะเดียวกัน ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานประกอบการ ต้องจัดให้มีการคัดกรอง และมีมาตรการที่จำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ความปลอดภัยของประชาชน และมีการจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนปรนเรื่องแก้ไขเรื่องการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 เรื่อง คือ ผ่อนปรนให้สามารถขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือขบวนที่เช่าเหมา ที่ประชุมยังพิจารณาตั้งคณะทำงานศึกษาข้อมูลประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ดูความเหมาะสมและความถูกต้องของมาตรการต่างๆ ยังไม่ได้เป็นการห้ามหรือการส่งเสริม แต่ให้ไปศึกษาถึงผลกระทบ
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ช่วงเวลาการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเดิม เนื่องจากจะขัดกับประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 เรื่องการกำหนดเวลาในการจำหน่ายสุราและการดื่มสุราในสถานที่ขายสุราได้เฉพาะตามเวลาที่กำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย
หลังจากนี้คณะกรรมการจะนำมติไปสอบถามความเห็นของประชาชนผ่านเว็บไซต์ โดยใช้เวลา 15 วัน ก่อนสรุปส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนส่งต่อมายังนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะออกมาได้ทันก่อนวันที่ 11 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา
