วันอาทิตย์, มีนาคม 23, 2025
หน้าแรกHighlightหวั่นก๊าซ‘แอมโมเนีย’รั่วไหลช่วงหน้าร้อน เตือน‘โรงน้ำแข็ง-ปชช.’ให้พร้อมเฝ้าระวัง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หวั่นก๊าซ‘แอมโมเนีย’รั่วไหลช่วงหน้าร้อน เตือน‘โรงน้ำแข็ง-ปชช.’ให้พร้อมเฝ้าระวัง

อากาศร้อน น้ำแข็งขายดี “คารม” เตือน ปชช.ระวังสุขภาพ พร้อมส่งทีมปฏิบัติการอนามัยสิ่งแวดล้อม หากเกิดเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็ง หวั่นเกิดเหตุช่วงอากาศร้อน เตือนผู้ประกอบการ และ ปชช.เฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้ ซึ่งปกติช่วงหน้าร้อนร้านค้าและประชาชนจะมีความต้องการบริโภคน้ำแข็งมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการเร่งผลิตน้ำแข็งให้ทันต่อความต้องการ และมักเกิดเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล จากสถานประกอบกิจการประเภทการผลิตน้ำแข็ง และส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยโดยรอบ กรมอนามัย ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมอบหมายให้ทีมปฏิบัติการอนามัยสิ่งแวดล้อม ของศูนย์อนามัยประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบ ควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในระดับพื้นที่ ดำเนินการตามมาตรการควบคุม ป้องกันภาวะฉุกเฉินจากก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการประเภทผลิตน้ำแข็ง ลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

สำหรับมาตรการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน กรณีก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้อนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทการผลิตน้ำแข็ง มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการทุกแห่ง เพื่อปฏิบัติตามมาตรการ

1) ตรวจตรา ควบคุม กระบวนการผลิตทุกขั้นตอนเป็นประจำทุกวัน โดยให้เฝ้าระวังเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็ง ให้อยู่ในสภาพดี ไม่มีชำรุด เสียหาย หากพบความผิดปกติต้องเร่งให้มีการดูแล ซ่อมแซม ปรับปรุง สภาพให้ใช้งานได้ปกติ ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการรายงานผลการตรวจตราระบบไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบอย่างต่อเนื่อง

2) ตรวจสอบระบบเส้นท่อส่งก๊าซแอมโมเนีย ถังบรรจุก๊าซ ตลอดจนอุปกรณ์ ระบบไฟฟ้า ระบบตรวจวัดแรงดัน ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ โดยต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีการชำรุด แตกร้าว หรือมีความผิดปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนีย

3) ประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบระบบความปลอดภัย ของสถานประกอบกิจการให้มีประสิทธิภาพ เช่น ประสิทธิภาพของระบบดับเพลิง วันหมดอายุถังดับเพลิง และระบบเตือนภัยสำหรับพนักงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น

4) ตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็งให้มีการดำเนินการได้ตามปกติ และมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย และมีคุณภาพน้ำทิ้งให้เป็นไปตามมาตรฐาน รองรับการเกิดภาวะฉุกเฉินจากเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล จัดทำแผนและทำการซ้อมแผนสำหรับพนักงานของสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็ง รองรับกรณีเกิดภาวะฉุกเฉินจากก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล โดยให้ส่งแผนรับมือภาวะฉุกเฉิน อาจเพิ่มความถี่ในการซ้อมแผน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนและมี การเร่งผลิตน้ำแข็งที่มากขึ้นกว่าปกติ โดยมีการซ้อมการอพยพ แจ้งเตือนภัยภายในสถานประกอบกิจการและเตือนภัยประชาชนโดยรอบ

“รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชน และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เตรียมความพร้อมของทีมปฏิบัติการ โดยให้นำแนวทางการปฏิบัติงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม กรณีภาวะฉุกเฉินจากการรั่วไหล ระเบิด และเกิดเพลิงไหม้ของสารเคมี ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ และจัดเตรียมเครื่องมือตรวจวัด วัสดุ อุปกรณ์ ชุดทดสอบภาคสนามสำหรับสนับสนุนการปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในกรณีเกิดเหตุภาวะฉุกเฉินก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็ง ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ” นายคารม ระบุ

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img