“หมอเจด” เตือนยิ่งอ้วนยิ่งเสี่ยงมะเร็ง ลดความเสี่ยงยังไงมาดูกัน แนะอย่ารอให้สุขภาพพังแล้วค่อยมาดูแล
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 “หมอเจด้วย” นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
เวลาเราอ้วนหรือมีไขมันส่วนเกินไม่ได้แค่ทำให้เสื้อผ้าคับหรือเหนื่อยง่ายขึ้น แต่ยังเป็นหนึ่งในตัวการหลักที่เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ ลำไส้ใหญ่ ปากมดลูก รังไข่ ตับอ่อน และอีก 17 ชนิด
แล้วจะรู้ได้ไงว่าอ้วน มันไม่ใช่แค่ดูจากกระจกแล้วรู้สึกว่าตัวใหญ่ขึ้น แต่ต้องมีเกณฑ์ชัดเจน ซึ่งมีหลายวิธีในการวัด เช่น
ค่าดัชนีมวลกาย (BMI – Body Mass Index) คำนวณจากน้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง
•ถ้า BMI 25 – 29.9 = น้ำหนักเกิน และ BMI 30 ขึ้นไป = อ้วน (เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ รวมถึงมะเร็ง)สัดส่วนรอบเอวต่อสะโพก (Waist-to-Hip Ratio – WHR)
•ผู้หญิงที่มีรอบเอวเกิน 80 ซม. และผู้ชายที่มีรอบเอวเกิน 90 ซม. มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ไม่ใช่แค่เรื่องของรูปลักษณ์แล้วนะ แต่มันเกี่ยวกับสุขภาพล้วน ๆ เพราะไขมันเยอะ = การอักเสบในร่างกายเยอะ = เซลล์มีโอกาสผิดปกติและกลายเป็นมะเร็งง่ายขึ้น มันเป็นยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟังนะ

หนึ่ง ไขมันในช่องท้อง = จุดเริ่มต้นของปัญหา
คนที่อ้วนโดยเฉพาะมีไขมันสะสมที่พุงเยอะ ๆ จะมีการหลั่งสารที่เรียกว่า ไซโตคายน์ (Cytokines) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง
สารหลัก ๆ ที่ว่าก็คือ TNF-alpha กับ IL-6 (Interleukin-6) ซึ่งทำให้ร่างกายเสบแบบไม่รู้ตัว
ถ้าสงสัยว่าตัวเองอักเสบมากแค่ไหน ลองไปตรวจเลือดดูค่า C-Reactive Protein (CRP) ถ้าจะให้แม่นยำสุด ๆ ก็ต้องเป็น hsCRP (high-sensitivity C-Reactive Protein)
สอง ดื้อต่ออินซูลิน = เซลล์โตไวเกินจำเป็น
พอเราอ้วนขึ้น ร่างกายเริ่มดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ซึ่งก็คือภาวะที่อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ต้องผลิตออกมาเยอะขึ้น
แต่รู้ไหมว่า อินซูลินสูง ๆ เนี่ย เป็นตัวเร่งให้เซลล์เจริญเติบโตไวขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีเซลล์ผิดปกติอยู่แล้ว โอกาสที่มันจะกลายเป็นมะเร็งก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก
สาม ฮอร์โมนจากไขมัน
ไขมันไม่ได้เป็นก้อนเนื้อนะ แต่มันยังเป็นโรงงานผลิตฮอร์โมนบางตัวที่ส่งผลเสียกับร่างกาย เช่น เลปติน (Leptin) ซึ่งปกติช่วยควบคุมความหิว แต่ถ้าอ้วนมาก เลปตินจะสูงเกินไป และกระตุ้นให้เซลล์เติบโตเร็วขึ้นด้วย
ในขณะเดียวกัน ไขมันยังไปลดฮอร์โมนที่ดีอย่าง Adiponectin ซึ่งมีหน้าที่ลดการอักเสบและช่วยป้องกันเซลล์ผิดปกติไม่ให้ลามไปเป็นมะเร็ง แต่พอไขมันเยอะ Adiponectin ก็จะลดลง อันนี้ไม่ควรปล่อยไว้นะ
สี่ ไขมันสะสม = DNA เสียหายง่ายขึ้น
สิ่งที่ทำให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งคือ DNA เสียหาย ตามปกติร่างกายมีระบบซ่อมแซม DNA แต่ถ้าการอักเสบเรื้อรังมันอยู่ตลอดเวลา ระบบนี้ก็เริ่มรวน ทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ไขมันในช่องท้องยังทำให้ร่างกายผลิต Reactive Oxygen Species (ROS) หรือที่เราเรียกว่าอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำลาย DNA แบบตรง ๆ พอ DNA พัง ระบบซ่อมแซมพัง โอกาสเกิดเซลล์มะเร็งก็สูงขึ้นไปอีก

ห้า เพราะฉะนั้นลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงมะเร็ง
เลือกกิน เน้นอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และไขมันดี (น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ปลา) และอย่าลืมอย่าลืมโปรตีนด้วยนะ
ขยับตัวให้มากขึ้น ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ จะช่วยเผาผลาญไขมันและทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
เลี่ยงของหวานจัดและแป้งขัดขาว เพราะมันเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลินและสะสมไขมันมากขึ้น
นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพราะช่วงเวลาที่นอนคือช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
ลดความเครียด เพราะฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายมากขึ้น
ความอ้วนไม่ได้แค่ทำให้วิ่งแล้วเหนื่อยง่าย หรือใส่เสื้อผ้าไม่สวย แต่มันเป็นตัวเร่งให้เกิดมะเร็งด้วยนะ ไขมันเยอะทำให้เกิดการอักเสบแบบเรื้อรัง ปรับฮอร์โมนให้ผิดเพี้ยน และเพิ่มโอกาสให้ DNA เสียหายจนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
เพราะฉะนั้นลดน้ำหนัก ไม่ใช่แค่เพื่อให้ดูดี แต่เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงและลดความเสี่ยงโรคร้าย อย่ารอให้สุขภาพพังก่อน ค่อยเริ่มดูแลตัวเองนะครับ ใตครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะ