วันอังคาร, เมษายน 1, 2025
spot_img
หน้าแรกHighlightตัวเลขผู้ติดค้างอยู่ใต้ซาก‘ตึกสตง.’50คน ‘อนุทิน’รับภารกิจนี้ยากพอๆกับ‘ถ้ำหลวงฯ’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ตัวเลขผู้ติดค้างอยู่ใต้ซาก‘ตึกสตง.’50คน ‘อนุทิน’รับภารกิจนี้ยากพอๆกับ‘ถ้ำหลวงฯ’

‘อนุทิน’ ควง ‘เอกนัฎ’ ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ ‘ตึก สตง.’ ถล่ม เผย ตัวเลขผู้ติดค้างใต้ซากอีก 50 คน พร้อมตั้งกรรมการสอบขีดเส้น 7 วัน ด้าน ‘มอก.’ นำชิ้นส่วนโครงสร้าง ตรวจมาตรฐาน

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 30 มี.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) พร้อมด้วย นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) นำเจ้าหน้าที่สภาวิศวกรรมและ เจ้าหน้าที่ มอก. เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดถล่ม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ (28 ม.ค.) ที่ผ่านมา

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ยังคงพบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายในที่เกิดเหตุ มีทีมแพทย์ประจำการสำหรับประเมินความเป็นไปได้ เพื่อวางแนวทางให้ความช่วยเหลือ เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรทั้งหมดเข้าไปดำเนินการเต็มที่ได้ แต่ก็มีความหวังจะยังคงมีผู้รอดชีวิตอยู่ ส่วน การช่วยเหลือกรณีหากพบผู้รอดชีวิตจากการตรวจสอบภายในพบมีช่องอากาศที่สามารถจะใช้ในการสอดท่อลมเข้าไปได้ แต่ประเด็นคือผู้ที่ยังไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากถูกทับด้วยโครงสร้างขนาดใหญ่ จึงทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ ซึ่งถือเป็นความยากลำบากในการทำงาน

ขณะเดียวกันในพื้นที่ยังมีทีมวิศวกรคอยประเมินการทำงานด้านการเจาะโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในซากอาคารและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ได้เครื่องมือเข้ามาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก เช่น เครนขนาด 500 ตัน และ 600 ตัน ซึ่งก็จะนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ทยอยยกคานขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากลงมาด้านล่างเพื่อลดแรงกดทับจากด้านบน ลดความเสี่ยงในการถล่มเพิ่มเติม ซึ่งการได้เครนขนาดใหญ่มาเป็นจำนวนมากถือเป็นผลดี เพราะจะช่วยในการถ่วงดุลน้ำหนักของโครงสร้าง โดยขณะนี้มีหน่วยกู้ภัยจากต่างประเทศเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานทั้งหน่วยกู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญ

ส่วนการตรวจสอบหาสัญญาณชีพขณะนี้อยู่ระหว่างใช้เครื่องมือในการตรวจสอบ แต่ต้องยอมรับว่าสัญญาณค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำ ส่วนนี้อาจมาจากการที่ผู้ติดค้างอยู่ในซากอาคารติดค้างอยู่ภายในเป็นเวลานานหลายวัน จึงอาจไม่มีแรงในการขยับตัว เจ้าหน้าที่ต้องหาวิธีที่จะค้นหาผู้ติดค้างในทุกวิถีทาง โดยในวันพรุ่งนี้ ก็จะครบเวลา 72 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มแผนปฎิบัติงาน โดยจะต้องมีการประเมินและวิเคราะห์การปรับใช้เครื่องมือตลอด 24 ชั่วโมงโดยผู้เชี่ยวชาญ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับตัวเลขผู้สูญหาย จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ายังคงมีผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใต้เศษซากอาคารอีกประมาณ 50 คน แต่ไม่ได้หมายความว่า หากครบทั้ง 50 คน แล้วจะหยุดการค้นหา ซึ่งภารกิจในครั้งนี้ยอมรับว่า มีความยากลำบากและสำคัญเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับภารกิจถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน

ส่วนการตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการฯโดยขีดเส้นให้ดำเนินการภายใน 7 วัน โดยมีวิศวกรใหญ่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรม และนักวิชาการ เป็นคณะทำงานตรวจสอบ โดยการตรวจสอบจะเน้นไปที่ ‘วัสดุ’ ที่ใช้ในการก่อสร้าง ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งขณะนี้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วนไปตรวจสอบ

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนตัว มองว่า ตึกนี้น่าจะมีปัญหา เนื่องจากในพื้นที่ กทม.มีตึกเป็นจำนวนกว่า 10,000 ตึก บางตึกมีอายุมากกว่า 30-50 ปี แต่ก็ไม่เห็นเกิดปัญหาเหมือนเช่นอาคารแห่งนี้

นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่มาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ สมอ. เข้าไปเก็บตัวอย่างเหล็ก ในอาคารที่ถล่ม โดยกำหนดขนาดของวัสดุที่ต้องการจะเก็บตัวอย่างไว้แล้ว โดยจะเปิดเผยรายละเอียดหลังจากเข้าไปเก็บตัวอย่างแล้วเสร็จ ส่วนที่เก็บได้ จะนำไปตรวจที่สถาบันเหล็ก เพื่อวิเคราะห์ว่าได้มาตรฐานหรือไม่

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img