‘นายกฯ แพทองธาร’ มอบ รมต.ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ ปม ‘ตึก สตง.’ ถล่ม ลั่น ตึกเดียวส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ ต้องตอบโลกได้ว่าเกิดอะไรกับไทย ขออย่าโฟกัสความผิดบริษัทรับเหมาเป็นประเทศใด สั่งตรวจสอบ ‘ทุกโครงการ’ ที่บริษัทนี้ทำ พร้อมสั่งตรวจสอบเหล็ก กระจายไปที่อื่นหรือไม่ หลังพบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน รับ ‘ทวี’ รายงานอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณาเป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีมีการหารือเรื่องเหตุอาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่มถึงสาเหตุ รวมไปถึงข้อเสนอของแต่ละกระทรวง ซึ่งแต่ละกระทรวงก็รับไปเพื่อพิจารณาดำเนินการ เพื่อให้การหาข้อเท็จจริงเป็นไปโดยรวดเร็วที่สุด ขณะเดียวกันจะมีการใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้วย โดยมอบหมายให้ กระทรวงที่เกี่ยวข้องลองพูดคุยติดต่อกับประเทศที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้งอย่างในประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรป
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ตรวจสอบทุกโครงการที่บริษัทดังกล่าวได้รับสัมปทาน และให้ลงลึกว่า ทำโครงการใดบ้าง เนื่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาระบุว่า เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานจะดำเนินการตรวจสอบต่อหรือไม่ ว่าได้มีการกระจาย ไปยังโครงการอื่นๆ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องดำเนินการตรวจสอบแน่นอน เนื่องจากเป็นเรื่องของความปลอดภัย หากพบว่าชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะเหล็กที่นำมาก่อสร้างอาคารกระจายไปยังโครงการอื่นๆด้วยก็ต้องมีการแจ้ง อย่างที่ตนพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าต้องจริงจังกับเรื่องนี้ตามกระบวนการทุกอย่าง เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แม้ว่าจะเกิดขึ้นกับตึกๆเดียว แต่เป็นภาพพจน์ของประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราต้องตอบโจทย์เรื่องนี้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยให้เวลากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเพื่อหาคำตอบมาบอกกับประชาชน และทั้งโลกว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย
ส่วนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยอมรับว่าอยู่ในกระบวนการพิจารณาของดีเอสไอแล้ว
เมื่อถามว่า จะมีการอธิบายนักท่องเที่ยวและนักลงทุนอย่างไร เพื่อสร้างความเชื่อมั่น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งตนเองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พยายามสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจว่า เป็นความผิดพลาดของตึกๆ เดียว ซึ่งตึกทุกตึกทั้งประเทศต้องผ่านมาตรฐานตามกฎหมาย ทั้งการรองรับเหตุแผ่นดินไหวและเรื่องต่างๆ ซึ่งขณะนี้เราได้ทำการสื่อสารว่าอยู่ระหว่างสอบสวนอยู่
ส่วนจะมีการตรวจสอบบริษัทที่เป็นทุนข้ามชาติ อย่างเข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรียอมรับว่า ถือเป็นบทเรียนที่เราต้องเข้มงวดมากขึ้น สำหรับทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างตึกเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
เมื่อถามต่อว่า บริษัทข้ามชาติมีการจ้างแรงงานที่เป็นต่างด้าว จนเกิดการตั้งคำถามว่าประเทศไทยไม่ได้อะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องดูเรื่องของการขออนุญาตว่าถูกกฎหมายหรือไม่ ทั้งเรื่องแรงงานต่างด้าว แต่ทุกไซต์งานก่อสร้างไม่ใช่ เพียงชาติใดชาติหนึ่งทั้งหมด ซึ่งต้องยอมรับว่าจำนวนแรงงานไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องดูตรงนี้ให้ดี และย้ำว่าจะไม่ให้คนไทยเสียโอกาสอย่างแน่นอน อย่างไซต์งานที่เกิดเหตุก็มีทั้งสองสัญชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่าการก่อสร้างตึกนี้เป็นการร่วมกันระหว่างบริษัทไทยและบริษัทจีน เราก็ต้องสอบสวนไป ในเบื้องต้นไม่ใช่เรื่องว่าเป็นบริษัทของประเทศไหน ซึ่งต้องดูตามการเชื่อมโยงกัน และไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสัญชาติ ถ้าเป็นไทยจดกับใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไร ไม่อยากให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง เข้าใจว่าเราไปโฟกัสเรื่องความผิด มันเป็นเรื่องของหน้างาน