‘กมธ.อุตสาหกรรม’ ชง ‘กระทรวงอุตฯ’ เพิกถอนสิทธิ BOI ‘บ.ผลิตเหล็กเส้น’ ตกมาตรฐาน ลามทำตึก ‘สตง.’ ถล่ม แนะส่งข้อมูลตรวจสอบวัสดุต่ำกว่ามาตรฐานให้ ‘รัฐบาล’ สอบ
วันที่ 10 เม.ย.2568 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ฯ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงกรณีปัญหาเหล็กเส้นที่ใช้ในการสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)แห่งใหม่ 30 ชั้นถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ในเหตุแผ่นดินไหวว่า ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)ชี้แจงว่า เหล็กที่นำไปตรวจสอบมาจากสุ่มตรวจสอบ 9 รายการ เป็นเหล็กข้ออ้อย และลวดเหล็กกล้าตีเกลียว ผลพิสูจน์ปรากฏว่า ตกสเปค 2 รายการ คือ เหล็กDB20 และ DB32 โดยทางรองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ชี้แจงต่อกมธ.ฯ โดยมีข้อกังวลว่าเหล็กที่ใช้ตรวจไม่ใช่เหล็กใหม่ แต่เป็นเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างแล้ว เมื่อเกิดแผ่นดินไหวก่อนอาคารพังถล่ม เหล็กได้ทำหน้าที่รับแรงดึง ซึ่งเหล็กเมื่อมีการใช้งานไปแล้วอาจมีปัญหาในการตรวจสอบ กมธ..จึงเสนอแนะว่า ข้อมูลที่จะถูกส่งไปยังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตั้งโดยรัฐบาล จึงต้องงเก็บรวบรวมข้อมูลให้รอบคอบรัดกุมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ผลิตเหล็กทั้ง 2 รายการนี้
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ชี้แจงว่า ก่อนจะมีการก่อสร้าง หน่วยงานก่อสร้างจะต้องตัดชิ้นตัวอย่างไปตรวจสอบ ซึ่งกมธ.จะทำหนังสือขอข้อมูลในส่วนของการควบคุมการก่อสร้างจากกรมโยธาธิการฯด้วย เนื่องจากการก่อสร้างหน่วยงานราชการไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่าจะมีการสร้างอาคารเท่านั้น ส่วนที่มีการกล่าวหาในสื่อโซเชียลว่า สมอ. สั่งอายัดเหล็กที่ตกสเปคจากผู้ผลิตเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง.ตั้งแต่เดือน ธ.ค.67 นั้น เป็นกระบวนการตรวจสอบควบคุมคุณภาพตามพ.ร.บ.มาตรฐานอุตสาหกรรม โดยโรงงานดังกล่าวถูกสั่งปิดจากเหตุเพลิงไหม้อยู่ด้วย โดยสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมมีคำสั่งให้โรงงานนี้ต้องปรับปรุงคุณภาพเหล็กให้ได้มาตรฐานก่อนจะจำหน่ายเหล็กได้อีกครั้ง
“ส่วนที่จะผลิตใหม่และจำหน่ายให้กับพี่น้องประชาชน ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่า หากไม่มีการแก้ไขก็จะไม่สามารถผลิตได้ ขณะที่การเพิกถอนสิทธิประโยชน์การลงทุน (BOI) กมธ.ได้ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมเพิกถอนสิทธิ BOI กับบริษัทผู้ผลิตเหล็กนี้ก่อนที่จะมีการเกิดแผ่นดินไหว โดยทางเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ชี้แจงว่า ตามกฎหมายสามารถถอนได้ก็ต่อเมื่อผู้ประกอบการนั้นละเมิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ผู้ประกอบการได้ละเมิดกฎหมาย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องทำบันทึกไปถึง BOI เพื่อให้พิจารณาถอนสิทธิประโยชน์ จึงอยากให้BOI ได้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่”ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าว