“ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลเร่งเครื่องดับไฟใต้! ถก “แม่ทัพภาค 4” หาทางออก ยันไม่ใช้กฎหมายก่อการร้าย พร้อมคุยจุฬาราชมนตรี หวังลดความรุนแรง สร้างสันติสุข
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 ณ อิมแพค เมืองทองธานี นายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) โดยระบุว่า รัฐบาลได้แสดงจุดยืนชัดเจนและมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพลลงพื้นที่เพื่อพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ยืนยันจุดยืนของรัฐบาล สำรวจปัญหาและความต้องการ รวมถึงประเด็นที่เป็นปัญหา เพื่อนำมาพูดคุยและแก้ไขต่อไป
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับทุกภาคส่วนเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง โดยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาได้เรียกพล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาหารือถึงปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเข้าใจความห่วงใยของประชาชนและขอให้รอผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากหลายแผนงานยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว เช่น การพบปะพูดคุยกับผู้อำนวยความสะดวกจากประเทศมาเลเซีย ตามที่ ดาโตะ เซอรีอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มอบหมาย และกำลังประสานงานกับหลายภาคส่วน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รองนายกรัฐมนตรี คาดการณ์ว่า ภายในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิ.ย. จะมีการสรุปแนวคิดและเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากได้มีการวางแผนกระบวนการแก้ไขปัญหาไว้แล้ว
เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐอาจตกเป็นเป้านิ่งของการก่อเหตุ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า “ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว ขณะนี้ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่สามารถดูแลได้อยู่แล้ว” ส่วนการปรับเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาในอนาคตนั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีกลไกและกฎหมายที่สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
ในประเด็นการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลได้เน้นย้ำในเรื่องนี้มาโดยตลอด และได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาไปให้ความมั่นใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนการทำงานเชิงรุกนั้น ไม่ได้หมายถึงการออกไปต่อสู้ แต่เป็นการเพิ่มการตรวจตราด่านต่างๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายอาวุธสงคราม รวมถึงการจัดกำลังดูแลหน่วยทหารและประชาชนกลุ่มเปราะบางทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิม โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่ตั้งมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความหย่อนยาน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยกับแนวทางนี้
นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีความชัดเจนในการเปิดปฏิบัติการเชิงรุก โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการลดการใช้ความรุนแรงให้มากที่สุด และในวันนี้ (7 พ.ค.) ตนเองจะเดินทางไปพบกับนายอุดม บุญชม จุฬาราชมนตรี เพื่อหารือในประเด็นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
