‘นายกฯ’ เรียก ‘ผบ.ตร.’ รายงาน ปม ฮ.ตำรวจตก ‘บิ๊กต่าย’ ย้ำ ให้ความสำคัญชีวิตคน แจง ไม่ละเลยทุกความเห็น หลังพบแชตนักบิน บอก “ฮ.ไม่พร้อมใช้งานแล้ว“ ยัน สอบละเอียด เอาผิดเด็ดขาดหากพบทุจริตซ่อมบำรุง แจง ของบซื้อใหม่ ดูความจำเป็น 5-10 ปีข้างหน้า
วันที่ 28 พ.ค.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเข้าพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กว่า 1 ชั่วโมง เพื่อรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่อง อากาศยานตำรวจตกถึง 2 ครั้งในรอบ 1 เดือน ว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อกรณีนี้ จึงเรียกตนและทีมงานเข้ามารายงานข้อมูล และสอบถามเกี่ยวกับความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีความต้องการอะไร ขอให้พิจารณาและนำเสนอเข้ามา
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ฮ.อยู่ในสภาพไม่พร้อมบินนั้น พล.ต.อ.กิตติรัตน์ ระบุว่า สิ่งที่ตนและผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติตระหนัก อย่างแรกคือความปลอดภัยของนักบิน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความสูญเสียอย่างมาก ส่วนการแสดงความเห็นตามโซเชียล มองว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถแสดงความเห็นได้ แต่สิ่งต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบ ทั้งหมดอยู่ที่การพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหากตรวจสอบพบว่า มีใครประพฤติมิชอบ จะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งช่วงบ่ายนี้ตนจะไปประชุม ที่กองบินตำรวจ เพื่อให้นักบินให้ความมั่นใจในอากาศยาน
เมื่อถามย้ำว่าในฐานะผู้บังคับบัญชา เห็นข้อความของ หนึ่งในนักบินที่ ฮ.ตกหรือไม่ ว่า ตนได้เห็นข้อความของหนึ่งในนักบินที่เสียชีวิต สนทนากับเพื่อน ว่า “เครื่องบินแทบบินไม่ได้แล้ว” ตนไม่ขอปฏิเสธ แต่ได้นำความเห็นส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปตรวจสอบด้วย และยืนยันว่า ไม่ละเลย รวมถึงทุกความเห็นที่ตนได้รับ ได้ส่งให้จเรตำรวจตรวจสอบ และขอให้ดูทุกประเด็น
ส่วนการขอซื้ออากาศยานใหม่นั้น อยู่ในแผนของการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว แต่อยากได้อย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูภารกิจและความจำเป็น รวมถึงงบประมาณในสิ่งที่จะได้ รวมถึงแนวคิดในการบริหารงานจากนี้ไป ซึ่งตนคิดเผื่อข้างหน้าอีก 10 ปี
เมื่อถามว่า มีความต้องการอากาศยานใหม่จำนวนเท่าไหร่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขอไปดูจำนวนให้ชัดเจนว่า ของที่มีอยู่มีจำนวนเท่าไหร่ รอจำหน่ายเท่าไหร่ และอยู่ในวงการซ่อมแซมจำนวนเท่าไหร่ เพื่อมาดูความจำเป็นว่าอีก 5 ปี 10 ปี เราจำเป็นต้องต้องใช้อากาศยานจำนวนเท่าไหร่
เมื่อถามถึงกรณีเพจ CSI LA เปิดเผยข้อมูลว่า ขณะนี้กองบินตำรวจมี ฮ. ทั้งหมด 63 ลำ แต่ใช้ได้เพียง 9 ลำ และมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการทุจริตในกาาซ่อมบำรุงนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำว่า มีข้อมูลจากหลายกลุ่ม แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้บริหารกองบินด้วย ว่าความจริงแล้วมี ฮ.อยู่เท่าไหร่ ใช้ได้เท่าไหร่และใช้ไม่ได้เพราะอะไร และส่วนที่ใช้อยู่ อยู่ในวงรอบการซ่อมเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการบริหารที่ถูกแล้ว แต่หากพบว่าครบชั่วโมงบินแล้วไม่ซ่อม ไม่ดูแล แบบนี้ถือว่าละเลยหรือไม่ เป็นประเด็นที่ต้องดูมากกว่า
พร้อมย้ำว่า หากพบว่า มีการเบียดบังทุจริต จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะนี่คือชีวิตของมนุษย์ ชีวิตของนักบินและผู้ร่วมปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องชีวิตคน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวด้วยว่าเรื่องการจัดซื้ออากาศยาน ไม่มีอยู่ในงบประมาณปี 2569 มีเพียงงบเรื่องซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นการขอตามงบประมาณปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว