‘’หมอยง’’อธิบายโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดหนักในไทย เพราะติดต่อง่ายมากแต่ความรุนแรงมีแนวโน้มลดลง ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยนอนรพ.และผู้เสียชีวิตน้อยลง
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.68 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตรศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์หัวข้อโควิด 19 มีการระบาดอย่างหนักมากของโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า การตรวจของศูนย์ ไวรัสที่จุฬา ที่ผมทำอยู่ จากภาพจะเห็นได้ชัดเจนว่า เราทำมาอย่างต่อเนื่อง ในปีที่แล้วทำถึง 8,000 ราย และในปีนี้ตั้งแต่มกราคมเป็นต้นมา มีการเพิ่มขึ้นของโควิด 19 ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่หยุด มีแนวโน้มสูงกว่าปีที่แล้วมาก เราจะเห็นได้จากจำนวนที่ตรวจ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นโควิด 19 ดังในรูปการตรวจ Real Time RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่ไวที่สุด
อัตราการตรวจพบหรือผู้ป่วยโรคทางด้านหายใจเพิ่มขึ้นมาก ดังแสดงในรูป

เราถอดรหัสหาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง มาโดยตลอด สายพันธุ์ที่พบขณะนี้อย่างที่เล่าให้ฟัง สายพันธุ์ NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลัก ในประเทศไทยแล้ว และมีแนวโน้มจะมากขึ้นอีก ตามแนวโน้มของโลก
สายพันธุ์นี้ติดต่อง่ายมาก ถ้ามองย้อนตั้งแต่สายพันธุ์โอมิครอน มาจนถึงปัจจุบัน สายพันธุ์โอมิครอน มีอำนาจการติดต่อในประเทศต่างๆกระจายได้จากผู้ป่วยคนหนึ่งไปยังผู้ป่วยคนอื่นๆ 3-6 คน เอาเป็นว่าสายพันธุ์ใหม่นี้ อำนาจการกระจายของโรคเพิ่มขึ้น ให้เป็น 5 คน แสดงว่าผู้ป่วย 1 คน ใช้เวลา 3 ถึง 5 วัน จะแพร่กระจายไปได้ 5 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะกระจายไปเป็น 25 คน อีก 5 วันต่อมา ก็จะเป็น 125 คน และ 625 คน ถ้าเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพียงผู้ป่วยรายเดียวจะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยไปได้เท่าไหร่ ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะมีผู้ป่วยติดเป็นส่วนใหญ่ แล้วโรคจึงจะสงบ

สายพันธุ์ NB.1.8.1 ในประเทศไทยนี้ จะมีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มลดลง จึงทำให้ยอดผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมีแต่จะน้อยลง