“หมอมนูญ” ยืนกรานไทยปูพรมฉีดแอสตร้าฯเข็มแรกให้มากสุด อย่างน้อย 50 ล้านคนภายใน 120 วัน เป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในภาวะวัคซีนขาดแคลน ยกผลศึกษาที่สหราชอาณาจักร สามารถลดการป่วยหนักจากสายพันธุ์เดลต้าได้ถึง 92% ฝากความหวัง “สยามไบโอไซเอนซ์” ส่งมอบวัคซีนได้ตามเวลา
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.64 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า ยุทธศาสตร์ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แต่ละประเทศแตกต่างกัน แล้วแต่จำนวนวัคซีนที่หามาได้ ของไทยเน้นปูพรมฉีดเข็มแรก โดยเฉพาะวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าให้มากที่สุดอย่างน้อย 50 ล้านคนให้เร็วที่สุดใน 120 วัน เป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในภาวะที่วัคซีนขาดแคลน โดยยืดเวลาการให้วัคซีนแอสตร้าเข็มที่ 2 ออกไปเป็น 12-16 สัปดาห์ แทนที่จะเน้นให้ทุกคนต้องฉีดคนละ 2 เข็มใน 8 สัปดาห์เหมือนประเทศที่มีวัคซีนเหลือพอ ในประเทศสหรัฐอเมริกา 1 ใน 10 คนที่ฉีดเข็มแรกไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา ปฏิเสธเข็มที่ 2 แต่ขณะนี้คนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯคือคนที่ไม่เคยรับวัคซีน
เป็นที่ทราบกันดีจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลและใส่ท่อหายใจเพิ่มขึ้นทุกวัน จนเตียงในไอซียูในโรงพยาบาลไม่เพียงพอ (ดูรูป) ยิ่งกว่านั้นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดประมาณ 80 กว่า% เป็นสายพันธุ์อัลฟ่าหรือสายพันธุ์อังกฤษ ตามมาด้วยสายพันธุ์เดลต้าหรือสายพันธุ์อินเดียเกือบ 20% เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ 60% เชื่อว่าอีกไม่นานสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนสายพันธุ์อัลฟ่าในประเทศไทย
มีการศึกษาจากประเทศสหราชอาณาจักร วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกสามารถลดการป่วยหนักเข้านอนโรงพยาบาลจากสายพันธุ์เดลต้า 71% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 76% วัคซีนแอสตร้า 2 เข็มลดการป่วยหนักเข้านอนรพ.จากสายพันธุ์เดลต้า 92% เทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า 86% (ดูรูป)
การปูพรมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 50 ล้านคนใน 120 วัน เป็นการให้ที่แข่งกับเวลาก่อนที่เชื้อสายพันธุ์เดลต้าจะขึ้นมาแทนที่สายพันธุ์อัลฟ่า วัคซีนแอสตร้าแม้เพียงเข็มแรกก็ช่วยลดจำนวนคนป่วยหนักเข้านอนรพ.มากกว่า 70% สำหรับวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มต้องให้ 2 เข็มใน 3-4 สัปดาห์ถึงจะมีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยหนักเข้านอนในโรงพยาบาลและเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนแล้ว ทุกคนก็ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเหมือนเดิม
ยุทธศาสตร์เมื่อกำหนดแล้ว ต้องทำให้ได้ ฝากความหวังกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ผู้ผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าสามารถทยอยส่งมอบวัคซีนให้กระทรวงสาธารณสุขมากที่สุดทันตามกำหนดเวลา