วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“จุฬาฯ”เปิดงานวิจัยตรวจ“เกล็ดเลือด” หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จุฬาฯ”เปิดงานวิจัยตรวจ“เกล็ดเลือด” หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca

หมอจุฬาฯ เผยไม่พบภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ในผู้รับวัคซีน AstraZeneca  แนะปชช.ไม่จำเป็นต้องตรวจเกล็ดเลือดหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca  เว้นผู้ที่มีอาการสงสัยเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันเท่านั้น

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 รศ.นพ.นภชาญ เอื้อประเสริฐ  สาขาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยว่า  ผลการศึกษากาวะการเกิดเกล็ดเลือดต่ำที่กระตุ้นให้เกิดหลอดเลือดอุดตันจากภูมิคุ้มกันภายหลังได้รับวัคซีน (Vaccine-Induced Immune Thrombotic Thrombocytopenia : VITT) ในบุคลากรที่ได้รับวัคซีนAstraZeneca ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจำนวน 521 คน

พบว่าไม่พบภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ในผู้รับวัคซีน AstraZeneca ทั้ง 521 คน และไม่พบการเพิ่มขึ้นของการสร้างแอนติบอดีต่อเกล็ดเลือด (pathogenic anti-platelet factor 4 antibody) ที่นำไปสู่ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ และหลอดเลือดอุดตัน รวมทั้งไม่พบหลักฐานการกระตุ้นระบบการแข็งตัวของเลือดจากการตรวจตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (D-Dimer)

รศ.นพ.นภชาญ  แนะนำด้วยว่า ประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องตรวจเกล็ดเลือดหลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ยกเว้นผู้ที่มีอาการสงสัยเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันเท่านั้น เช่น ปวดศีรษะรุนแรง แขนขาชาหรืออ่อนแรง หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ตามัว เห็นภาพซ้อน เหนื่อยง่าย หายใจลำบากหรือติดขัด เจ็บหรือแน่นหน้าอก ปวดท้องหรือปวดหลังรุนแรง ขาบวมแดงหรือซีดเย็น เป็นต้น สามารถพบแพทย์ได้ทันที

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img