วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSทั่วไปเตรืยมฉีดวัคซีน Pfizer เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ผู้ปกครองต้องให้ความยินยอม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เตรืยมฉีดวัคซีน Pfizer เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ผู้ปกครองต้องให้ความยินยอม

รัฐบาลเตรียมฉีดไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยผู้ปกครองต้องให้ความยินยอม ด้าน กทม.เริ่มฉีดเข็มแรกแก่เด็กกลุ่มเสี่ยง 21 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 11ก.ย.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีมติเห็นชอบการให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ด้วยความยินยอมของผู้ปกครอง โดยจะเริ่มภายในเดือนตุลาคมนี้

กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช./ปวส.) หรือเทียบเท่า โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรกสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช/ปวส.) หรือเทียบเท่า ถัดไปจะจัดสรรวัคซีนสำหรับระดับชั้นอื่นๆ ที่เหลือ โดยรูปแบบการให้บริการจะเป็นการให้บริการผ่านสถานศึกษาที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปกำลังศึกษาอยู่

โดย ศบค.ได้เร่งให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร สำรวจกลุ่มเป้าหมาย จัดทำแผนจัดสรร กำหนดช่วงเวลาเข้ารับวัคซีนและประสานสถานศึกษาเพื่อนำนักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ สถานศึกษาต้องชี้แจงผู้ปกครองเพื่อขอความยินยอมในการรับวัคซีนและจัดส่งใบยินยอม และแจ้งจำนวนนักเรียนที่จะเข้ารับ ทั้งนี้ จะมีการเฝ้าระวังอาการภายหลังได้รับการฉีดวัคซีนด้วย สำหรับสถาบันการศึกษาที่นักเรียน/นักศึกษามีอายุเกิน 18 ปี ก็สามารถให้รับวัคซีนไฟเซอร์ได้โดยอนุโลม ซึ่งทางกระทรวงศึกษาฯ จะเร่งดำเนินการฉีดให้เร็วและครอบคลุมที่สุดเพื่อรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564

น.ส.รัชดากล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนการให้บริการฉีดวัคซีนไฟเซอร์แก่นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงและผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง ทุกสังกัดในพื้นที่ กทม. ซึ่งแผนดังกล่าวครอบคลุมการจัดหน่วยสาธารณสุขเพื่อให้บริการฉีดวัคซีน การติดตามอาการภายหลังได้รับวัคซีน และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและการเตรียมตัว เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักเรียนจะต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคในสถานศึกษาด้วย โดยจะเริ่มการให้บริการฉีดวัคซีนแก่เด็กตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนนี้เป็นต้นไป

“การฉีดวัคซีนแก่เด็กและเยาวชนจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง ยึดความปลอดภัยของเด็ก ติดตามอาการหลังการได้รับวัคซีนด้วย จึงขอให้สถานศึกษาเร่งสร้างการรับรู้แก่เด็ก ผู้ปกครอง รวมทั้งบุคลากรในโรงเรียนถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีน เพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับเข้าสู่การเรียนการสอนแบบ Onsite ได้” น.ส.รัชดากล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img