กระทรวงสาธารณสุขยืนยันความพร้อมรับมือการเปิดประเทศ แจงหลักเกณฑ์หากเจอติดเชื้อเพิ่ม 15 ต่อแสนราย – พบ 3 คลัสเตอร์ต้องเสนอทบทวนมาตรการ ลั่นต้องใช้มาตรการเข้ม หวั่นปัญหาอยู่ที่คนไม่ทำตาม
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5,6,8,9, และ 11 ร่วมกันแถลงข่าว “ความพร้อมของเขตสุขภาพกระทรวงสาธารณสุขรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564
โดยนพ.ธเรศ ระบุว่า เบื้องต้นที่จะแบ่งผู้เดินทางเข้าประเทศ 3 กลุ่ม กลุ่ม 1. ไม่จำกัดประเทศ แต่เข้ามาแล้วเข้าระบบการกักตัวตามปกติ กลุ่ม 2 คือกลุ่มนำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า 17 จังหวัด แต่ละจังหวัดจะเปิดตามพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และกลุ่ม 3 Test to go ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 46 ประเทศ
ทั้งนี้มาตรการด้านต่างๆ ที่วางไว้นั้นมีความพร้อม และจะมีการประเมินผลตลอดเวลา โดยจังหวัดเป็นผู้ประเมินพื้นที่ และรูทโซน หากมีความเสี่ยงเกิดการแพร่เชื้อก็จะมีการพิจารณาลดเส้นทางท่องเที่ยว หรือปรับลดกิจกรรม ให้กักตัวในรพ. จนถึงชะลอ หรือยุติการเดินทางเข้า เบื้องต้นจะใช้เกณฑ์ อาทิ มีอัตราการติดเชื้อมากกว่า 15 คนต่อแสนประชากรต่อสัปดาห์ พบการติดเป็นคลัสเตอร์มากกว่า 3 คลัสเตอร์ อัตราการครองเตียงมากกว่า 80 % เรื่องมาตรการ มาตรฐานที่กำหนดนั้นเราไม่ห่วง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่มาตรฐาน แต่อยู่ที่คนที่เข้ามามากกว่า 1. เข้ามาโดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 2. คนที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน
สำหรับ สถานการณ์ใน 17 จังหวัดนำร่องฯ ภาพรวมการติดเชื้อค่อนข้างจะลดลง จำนวนเตียงจึงยังคงมีเพียงพอ ซึ่งนอกจากเตียงหลักๆ ที่เตรียมเอาไว้ แล้วยังสามารถเพิ่มเตียงจากพื้นที่ใกล้เคียงและฮอทพิเทลได้อีก ดังนั้นยืนยันได้ว่า 17 จังหวัดที่เตรียมจะเปิดนั้นระบบสุขภาพโดยรวมทั้งหมด ทั้งเรื่องเตียง โดยเฉพาะเตียงเหลือง -แดง ซึ่งขณะนี้มีอัตราการครองเตียงอยู่ 20-30% เรื่องแลปก็มีความพร้อม มีความสามารถตรวจได้ 1.2 แสนเทสต์ต่อวัน เรื่องการควบคุมโรค เรื่องระบบการติดตาม และรายงานผลมีความพร้อม
ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิชย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 (ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด และระยอง) กล่าวว่า ในเขต 6 จะเป็นที่ตั้งของสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นศูนย์กลางที่มีคนเดินทางเข้ามาในประเทศก่อนจะเดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ จะมีการใช้แอพลิเคชั่น “Thailand pass” จะแบ่งผู้เดินทางการกระจายตามกลุ่มที่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนควบคุมป้องกันโรคของแต่ละกลุ่ม ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการซักซ้อมการรับมือเสมือนจริง และวันนี้ก็มีการซ้อมใหญ่อีกรอบ
ส่วนพื้นที่จังหวัดในเขตฯ 6 ที่อยู่ในจังหวัดนำร่องนั้น จะมีการเตรียมการ 2 ส่วน 1.เตรียมบุคลากรและคนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง คนไทย และประชาชนแฝงให้ฉีดวัคซีน 2. เตรียมความพร้อมสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนซึ่งมี 37 แห่ง เช่น ที่จังหวัดชลบุรีที่มีการเพิ่มศักยภาพสถานพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้ ก็จะคงเอาไว้ก่อน ทั้งนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นศูนย์บริหารจัดการ Monitor สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดอื่นๆ ในเขตที่ไม่ได้เป็นจังหวัดนำร่องฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้เช่นเดียวกัน เพราะเรายังมีสักท่องเที่ยวกลุ่ม Test to Go ที่สามารถไปจังหวัดไหนก็ได้ดังนั้นจะมีการหารือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในการเตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีสถานการณ์ที่เข้าข่ายเสี่ยงต่อการกระบาดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีการพิจารณาปรับมาตรการให้เหมาะสมต่อไป .
