“อนุทิน” ชี้เร่งวางมาตรการสู้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น หวังประชาชนมูฟออนได้ แต่ยังไม่เปิดผับ บาร์ลุ้น อย.ถกเคาะฉีดซิโนแวค 3 ขวบศุกร์นี้
เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 65 ที่กระทรวงสาธารณสุข ภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ประชุมได้มีการการพิจารณาหลายเรื่อง เช่นกรณีการพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19 (ซิโนแวค) ในเด็กอายุ 3-17 ปี นั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีการประชุมผู้เชี่ยวชาญในวันที่ 4 ก.พ.นี้
ซึ่งวัคซีนซิโนแวคนั้นเป็นสูตรเดียวกับที่มีอยู่ ซึ่งกรมควบคุมโรคนั้นมีอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็ได้รับบริจาคจากประเทศจีนมาประมาณ 2 ล้านโดส การที่มีวัคซีนอีกชนิดสำหรับเด็กนั้นเป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับประชาชน อย่างเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันดีเดย์ฉีดวัคซีนโควิด -19 สำหรับเด็กอายุ 5 -11 ขวบนั้นมีผู้ปกครองบางส่วนก็ยังไม่สบายใจกับวัคซีน mRNA ดังนั้น วัคซีนเชื้อตายของซิโนแวคก็เป็นทางเลือกได้ ย้ำว่าเรื่องนี้ได้ผ่านการพิจารณาของอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแล้ว ซึ่งอนุกรรมการแต่ละท่านล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น ส่วนคนอื่นๆ นั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับการพิจารณาแนวทางเพื่อให้โควิด เป็นโรคประจำถิ่นนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคเพื่อให้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนถึงวัตถุประสงค์ และมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้อยู่กับโรคได้ คุมสถานการณ์ได้ คุมการป่วย การเสียชีวิตได้ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจที่จะมูฟออน (Move on) ต่อไปได้
ในส่วนของผับ บาร์ คาราโอเกะนั้นยังไม่มีการเปิดในช่วงนี้เพราะคลัสเตอร์ที่เกิดในระยะนี้ก็มาจากการดื่มเครื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่การปรับระดับพื้นที่สีต่างๆ นั้น หากสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น กรมควบคุมโรคก็พร้อมที่จะเสนอเข้าที่ประชุม EOC เพื่อพิจารณาทันที ส่วนกรณีเปิดให้เข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go นั้นได้ชี้แจงถึงมาตรการไปแล้วว่ามีการตรวจ RT-PCR 2 ครั้งในวันแรกที่เดินทางมาถึงประเทศไทย และวันที่ 5 โดยต้องมีการจองโรงแรม ลงทะเบียนไทยแลนด์ พาส ล่วงหน้าอยู่แล้ว ทั้งนี้การตรวจ RT-PCR ก็แม่นยำ
ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเอกสารประกอบการยื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนซิโนแวคสำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไปนั้น เราส่งเอกสารไปครบถ้วนแล้ว และทาง อย.ยังไม่ได้มีการเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติมอีก เพื่อประกอบการพิจารณาในวันที่ 4 ก.พ.นี้.
