“เทพไท” ยืนยัน นโยบายประกันรายได้ของ ปชป. ดีกว่า โครงการจำนำของ”ยิ่งลักษณ์” เงินถึงมือเกษตรกร ไม่มีโกง
วันที่ 20 ก.พ.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า ราคาสินค้าเกษตรที่รัฐบาลชุดนี้ ได้นำนโยบายประกันรายได้เกษตรของพรรคประชาธิปัตย์ไปใช้ มีการประกันราคาผลผลิตพืชเกษตร 5 ชนิด คือข้าว,ข้าวโพด,มันสำปะหลัง,ยางพารา,ปาล์มน้ำมัน ซึ่งราคาผลผลิตสินค้าเหล่านี้ ราคาท้องตลาด สูงกว่าราคาประกันของรัฐบาลทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคายางพารา ที่รัฐบาลประกันรายได้น้ำยางสด ที่กิโลกรัมละ 57 บาท แต่ราคาท้องตลาดกิโลกรัมละ 65 บาท ปาล์มน้ำมันรัฐบาลประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ราคาท้องตลาด กิโลกรัมละ 11-12 บาท ส่วนข้าวโพดรัฐบาลประกันรายได้ กิโลกรัมละ 8.50 บาท ราคาท้องตลาด กิโลกรัมละ 9.72-10.00 บาท
นับว่าเป็นความสำเร็จของโครงการประกันรายได้เกษตรกร ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยได้พิสูจน์ความสำเร็จมาแล้ว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อปี 2553 ที่ได้ใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกรเป็นครั้งแรก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เมื่อราคาพืชผลผลิตการเกษตร สูงกว่าราคาประกันทุกตัว รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่างเลย และที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ก็คือราคายางพารา กิโลกรัมละ 180 – 200 บาท ส่วนราคาปาล์มนำ้มันกิโลกรัมละ 10 บาท เป็นการยืนยันและเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ดีกว่านโยบายโครงการรับจำนำผลผลิตเกษตรกร ที่ทำให้สูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก เช่นโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการใช้หนี้ เป็นจำนวนมากถึง 7 แสนล้านบาท มีการทุจริตคอรัปชั่นกันทุกระดับ
จึงมั่นใจว่านโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินมาถูกทางแล้ว และหวังว่า ทุกรัฐบาลจะสานต่อนโยบายดังกล่าว ซึ่งเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ เรื่องราคาผลผลิตการเกษตร ของเกษตรกรได้มากที่สุด