‘หมอมนูญ’ เผยพบผู้ติดโควิดถึง 3 ครั้ง คนละสายพันธุ์ แค่ปีนี้ติด 2 รอบ เป็นผู้ช่วยพยาบาล แม้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว
วันที่ 7 ก.ค.65 เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ได้โพสต์ว่า โรคระบาดใหญ่ไวรัสโควิด-19 ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว ยังไม่ทีท่าจะจบลง มีบางคนติดเชื้อหายแล้ว ติดเชื้อซ้ำอีก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์ เชื้อที่เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่สายพันธุ์อู่ฮั่นของประเทศจีน สายพันธุ์ G สายพันธุ์แอลฟา เดลตา และโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1, BA.2 ล่าสุด BA.4, BA.5 เชื้อสายพันธุ์ใหม่สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อตามธรรมชาติจากสายพันธุ์เดิม
ผู้ป่วยหญิงอายุ 52 ปี ปกติแข็งแรงดี มีโรคประจำตัว ปวดข้อ และมีผื่น แต่ไม่รุนแรง สงสัยเป็นโรคภูมิแพ้ตนเอง SLE กินยาสเตียรอยด์ เพรดนิโซโลนขนาดต่ำ 5 มิลลิกรัมวันละครั้ง ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งแรกวันที่ 18 เม.ย.64 มีอาการแสบคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ไอ เอกซเรย์สงสัยปอดอักเสบ ยืนยันด้วยการตรวจ RT-PCR SARS-CoV-2 ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ดีขึ้น ติดเชื้อครั้งนั้นคงเป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา
หลังจากติดเชื้อครั้งแรก ผู้ป่วยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดทั้งหมด 3 เข็ม ซิโนแวค แอสตร้าเซเนกา และไฟเซอร์ เข็มสุดท้ายเดือนมกราคม 2565 ติดเชื้อไวรัสโควิดครั้งที่ 2 วันที่ 31 มี.ค.65 มีอาการแสบคอ ปวดเมื่อยตัว ไม่มีไข้ ไม่ไอ ยืนยันด้วยการตรวจ RT-PCR SARS-CoV-2 ไม่ได้กินยาต้านไวรัส หายเอง ครั้งนั้นคงเป็นเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2
ล่าสุดติดเชื้อไวรัสโควิดครั้งที่ 3 ต้นเดือน ก.ค.65 มีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตัว มีน้ำมูกเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีไข้ ยืนยันด้วยการตรวจ RT-PCR SARS-CoV-2 ไม่ได้กินยาต้านไวรัส กำลังดีขึ้น ครั้งนี้คงเป็นเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5
ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ช่วยพยาบาลทำงานที่ห้องฉุกเฉิน ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิดตลอดเวลา และเนื่องจากกินยาสเตียรอยด์ ภูมิคุ้มกันไม่ดีเหมือนคนทั่วไป ทำให้ติดเชื้อแล้วติดเชื้ออีกถึง 3 ครั้ง แม้จะได้รับวัคซีนครบโดสและเข็มกระตุ้นแล้วก็ตาม หลังจากหายครั้งนี้ ต้องให้วัคซีนเข็มกระตุ้นชนิด mRNA อีก 1 เข็ม