“เมเจอร์” ปลุกกำลังซื้อคนต่างจังหวัด ลดค่าตั๋วเหลือ 69 บาท เริ่ม 15 ส.ค.นี้ สำหรับ 60 สาขาทั่วประเทศ
นายนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคมถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทจะทดลองลดราคาค่าตั๋วหนังไทย และฮอลลีวูดในโรงภาพยนตร์พื้นที่ต่างจังหวัด จำนวน 60 สาขาทั่วประเทศ โดยจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 69-99 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนสาขาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสาขาที่เป็นโรงรพกับพรีเมียม เช่น สาขาพารากอน ยังจำหน่ายในราคาเดิม และขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายจะปรับราคาตั๋วหนังขึ้น
“หลังมีการปลดล็อกมาตรการโควิด-19 ทำให้โรงหนังกลับมาคึกคักมากขึ้น ตอนนี้เรามีหนังไทยเข้ามาฉายหลายเรื่อง เช่น บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทำรายได้กว่า 200 ล้านบาทแล้ว ซึ่งที่ต่างจังหวัดเราจะฉายหนังไทยในสัดส่วน 65% แต่ในบางสาขาราคาตั๋วหนังค่อนข้างสูง ขณะที่คนมีความระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น จึงปรับลดราคาลงมา เพื่อดึงคนให้มาดู ถ้ากระแสตอบรับดีอาจจะขยายเวลาการลดราคาออกไป”
ปัจจุบันเมเจอร์มีโรงหนัง ประมาณ 180 สาขา แบ่งเป็นสาขาต่างจังหวัด 50% และกรุงเทพมหานครอีก 50% ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เปิดสาขาใหม่ที่โลตัส สมุทรปราการ และในครึ่งปีหลังตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่เไม่เกิน 5 สาขา เช่น สาขาศูนย์การค้าโรบินสัน ราชพฤกษ์ และสาขาในศูนย์การค้าอิออน ประเทศกัมพูชาอีก 2 สาขา เนื่องจากในปีนึ้บริษัทจะเน้นปรับปรุงโรงหนังเดิมมากกว่า โดยใช้เงินปรับปรุงประมาณ 50 ล้านบาทต่อสาขา เช่น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท-เอกมัย รวมถึงอัพเกรดระบบเครื่องฉายด้วย