วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“สธ.”เฝ้าระวังสายพันธุ์ BA.2.75 พบป่วย 5 ราย อาการหนัก 1ราย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สธ.”เฝ้าระวังสายพันธุ์ BA.2.75 พบป่วย 5 ราย อาการหนัก 1ราย

กรมวิทย์ฯ เฝ้าระวังสายพันธุ์ BA.2.75 พบป่วย 5 ราย 1 ราย ไม่ฉีดวัคซีน อาการหนักอยู่ในไอซียู  เผย สายพันธุ์ระบาดในไทยตอนนี้ BA.5 อาการไม่แตกต่างจาก BA.1และ BA.2   

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 65 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศูภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์โรคโควิด-19 ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจสายพันธุ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5  โดยเฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศส่วนใหญ่ก็เป็น BA.4 และ BA.5  เช่นกัน เมื่อแยกเป็นพื้นที่ พบว่า ในกทม.เป็น BA.4 และ BA.5 อยู่ที่ 91.5% ที่เหลือเป็นสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 ส่วนภูมิภาค BA.4 และ BA.5 ก็ขึ้นมาที่ 80% อีก 20% เป็น BA.1และ BA.2 และเมื่อถอดรหัสแยกสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 พบว่า 77% เป็น BA.5 อีก 22% เป็น BA.4 ส่วนความรุนแรง ไม่มีความแตกต่างกันกับ BA.1 และ BA.2  

นอกจากนี้ ยังพบสายพันธุ์อื่นๆ ที่โผล่ขึ้นมา คือ BA.2.75 ที่เป็นประเด็นในประเทศอินเดีย และรายงานไปยัง GSIAD จำนวน 1,434 ราย วันนี้ในไทยพบ 5 รายแล้ว รายแรกเป็นชายไทย อายุ 53 ปี ที่จ.ตรัง ตามที่มีการรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้ รายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 62 ปี มีอาการไอ มีเสมหะ ไม่แน่ใจคิดจากลูกสาวที่ไปกทม.หรือไม่ รายที่ 3 เป็นนักเรียนมัธยมปลาย อายุ 18 ปี ที่โรงเรียนมีคลัสเตอร์เกิดขึ้น แต่ส่วนตัวรายนี้ตรวจเป็นสายพันธุ์ BA.2.75

ส่วนรายที่ 4 เป็นชายจังหวัดสงขลา อายุ 62 ปี ไม่ได้รับวัคซีน เป็นรายเดียวใน 5 รายที่อาการหนัก อยู่ในไอซียู ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแพ้ง่ายเลยไม่ฉีดวัคซีน น่าจะเป็นความเข้าใจผิด นี่ไม่ได้เป็นข้อห้ามฉีดวัคซีน แต่ถ้าไม่ฉีด เมื่อเกิดการ ติดเชื้อแล้วจะมีอาการหนัก ส่วนรายสุดท้าย เป็นหญิงสูงอายุ ติดเตียง ต้องติดตาม ทั้งนี้ ก็ต้องเฝ้าระวังกันต่อไป หากสายพันธุ์นี้เร็วจริง ก็จะมีสัดส่วนเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่หากไม่เร็วจริงก็จะขึ้นมาสักพักแล้วหายไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img