“เพื่อไทย” ดิ้นต่อชูนโยบายแก้รธน.หาเสียงเลือกตั้ง ไม่สน ส.ว.เป็นขวางหนาม ซัดสภาสูงใช้อารมณ์ตีตกร่างปชช. สวน “วันชัย” รู้ดีการเมืองรวมเสียงไม่ได้มากเป็นการพูดปลายเหตุ
วันที่ 8 ก.ย.65 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงว่ส มติรัฐสภาไม่ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับ ได้เห็นความพยายามของพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้านในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายที่หาเสียงกับประชาชนไว้ และความมุ่งมั่นในการสร้างระบอบประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เสนอทั้งหมด 3 ร่าง ขณะเดียวกันพบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ยากจริงๆ ตามที่คนเขียนได้วางกับดักไว้ ส่วนกลไกสำคัญที่เขาวางเอาไว้คือต้องใช้เสียงส.ว.ถึง84 เสียงจึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ รวมทั้งยังมีหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้และปกป้องเจตนารมณ์ของผู้ร่างชัดเจน
“การแสดงออกของส.ว.เมื่อวานนี้คือการปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ให้ผ่าน ซึ่ง ทั้ง 4 ร่างที่พิจารณาเมื่อวานนี้ แม้มี 2 ร่างเป็นเรื่องการเมือง แต่อีก 2 ร่างที่เหลือเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง เราคาดหวังว่า 2 ร่างที่เหลือจะผ่าน เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจใครเลย แต่ก็น่าผิดหวังที่ร่างทั้ง 2 ตกไป ขอบอกไปยังประชาชนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่แก้เฉพาะอำนาจของพวกเรา แต่อำนาจของประชาชนเราก็แก้ให้ แต่เสียดายที่จะต้องตกไปอีกครั้ง” นายสุทิน กล่าว
นายสุทิน กล่าวว่า ส.ว.ตัดสิน เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง หลายท่านพูดชัดเจนว่าไม่ลงมติเห็นชอบ เพราะส.ส.ไปพูดกระทบกระทั่งไม่ให้เกียรติ โดยไม่เอาเหตุผลและประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง แต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเราต้องทำงานให้หนักมากขึ้น โดยจะไม่หยุด เพราะการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเอาเรื่องนี้ประกาศเป็นนโยบายเ พื่อมาแก้ไขต่อ เพราะแม้อำนาจส.ว.จะหมดไปตามเวลา ที่เหลืออยู่2 ปี แต่ก็ไม่น่าปล่อยไว้
“นี่คือความหมายของการสืบทอดอำนาจและเป็นกลไกการสืบทอดอำนาจที่ได้ผลที่สุด ที่เขาชอบอ้างว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าจะอยู่เพื่อเปลี่ยนผ่านการปฎิรูปประเทศ แต่วันนี้ไม่มีการปฏิรูปอะไรแล้ว เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนผ่านจากประยุทธ์ 1 ไปประยุทธ์ 2 และจากประยุทธ์ 2 ไปประยุทธ์ 3 ดังนั้น ส.ว.ก็ทำหน้าที่แค่เปลี่ยนผ่านรัฐบาลประยุทธ์เท่านั้น ไม่ได้มีการปฏิรูปอะไร และไม่ได้มีความจำเป็นต้องอยู่แล้ว หากจำเป็นต้องมีการปฏิรูปจริงๆ เราก็ไม่ว่า แต่นี่ไม่มีประโยชน์และยังสืบทอดอำนาจ ซึ่งอำนาจของฝ่ายเผด็จการ เขาก็ยังเข้มแข็งของเขาและยังไม่ลืมหูลืมตา นอกจากไม่ฟังประชาชนแล้วยังมีการท้าทายด้วย หากฟังคำอภิปรายของส.ว.เมื่อวานนี้ที่บอกอย่างไม่อายว่าไม่รับร่างแก้ไขมาตรา 272 ที่บอกว่าพวกเราไปล่วงล้ำ ล่วงเกิน ซึ่งเหตุผลแบบนี้ยังอาจยกมาอ้าง เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง เป็นเรื่องไม่สมควร มันคือการท้าทายประชาชน”นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุว่าถ้าส.ส.รวมเสียงกันเองได้ ส.ว.ก็ไม่มีความหมายในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายสุทิน กล่าวว่า ก็รู้ว่าธรรมชาติการเมืองถึงอย่างไรก็รวมเสียงกันได้ไม่มากถึงขนาดนั้น ซึ่งการรวมเสียงโดยธรรมชาติสามารถรวมเสียงได้เกินครึ่งสภาฯแน่นอน แต่จะให้รวมเสียงเกินครึ่งหนึ่งของรัฐสภา มันทำได้ยาก นายวันชัยพูดปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือเสียงของคุณนั่นแหละที่เอามาบวก
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ว.เป็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราเสียดายที่ร่างของพรรคเพื่อไทยในประเด็นสิทธิชุมชน เรายืนยันว่าจะเดินหน้าเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป ขณะนี้มีการพูดคุยว่าจะประกาศเป็นนโยบายตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาแก้ไข ซึ่งมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข ไม่ใช่เรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว เช่นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการปฏิรูปต่างๆที่มันไม่ได้ผล ไม่ใช่ว่ารัฐธรรมนูญทุกอย่างจะดีไปหมด หาก4-5 ปีไม่ดีก็ต้องมีการปรับ เหมือนคนอ้วนขึ้นที่เสื้อมันคับ หรือว่าผอมลงก็ต้องตัดเสื้อใหม่