‘สมคิด จาตุศรีพิทักษ์’ เปิดตัวนั่ง ปธ.พรรคสร้างอนาคตไทย ลั่นได้เป็นนายกฯ หรือไม่ อยู่ที่ฟ้าลิขิต ซัดการเมืองวันนี้เหมือนคอกม้าซื้อขายโจ่งครึ่ม
เมื่อวันที่ 8 ก.ย.65 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต พรรคสร้างอนาคตไทย จัดกิจกรรม #คิดสร้างอนาคตไทย โดยเป็นการเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ทั้งนี้ นายสมคิดเดินทางมาถึงโรงแรมตั้งแต่เวลา 08.45 น. พร้อมกับ นายณฉัตร จาตุศรีพิทักษ์ หรือ “น้องคลัง” บุตรชายคนเล็ก
นายสมคิด เปิดใจช่วงหนึ่งประเมินสถานการณ์การเมืองตอนนี้ ค่อนข้างเละเทะ เงินตราเริ่มเข้ามามีบทบาทสูงมาก การแข่งขันทางการเมืองเริ่มมีลักษณะเหมือนการแข่งขันในสนามม้า มีม้าแข่งที่ต้องซื้อ มีคอกที่ต้องมีเจ้าของ และคอกต้องหาเงินมาเลี้ยงม้า สิ่งเหล่านี้ที่ผ่านมาแม้มีมาตลอด แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ โจ่งครึ่มเกินไป คนรุ่นใหม่จะไม่อยากเข้ามา อย่าคิดว่าเงินตราจะซื้อคอกม้าใหญ่ได้แล้วจะมีพลังในการบริหารประเทศ ถ้าเล่นการเมือง สร้างพรรคการเมือง คิดแต่สร้างผลทางอำนาจ แต่ถ้าไม่มีโครงสร้างทางปัญญา ไม่สั่งสมคนมีความสามารถ สุดท้ายจะไปไม่รอด จะพาบ้านเมืองไปไม่รอดด้วย
“มีคนเคยบอกว่า สมคิดไม่มาแน่นอน เพราะต้นทุนทางสังคมเยอะพอสมควร จะมาอยู่กับพรรคเล็กทำไม ผมมาที่นี่ไม่ใช่เพราะตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ แต่ต้องการช่วยพรรคครั้งนี้ เป็นตัวอย่าง เป็นตัวขับเคลื่อน สร้างความเปลี่ยนแปลงกับประเทศไทยในทางที่ถูกต้อง” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ชี้แจงเบื้องหลังที่ต้องนำ ทีม 4 กุมาร วอล์กเอาต์ ออกจาก ครม. เนื่องจากพิษการเมืองที่แสวงหาอำนาจแต่ไม่แสวงปัญญา เป็นรัฐบาลผสม หรือบุฟเฟ่ต์คาบิเนต มีที่ไหนที่นโยบายประเทศแบ่งกันตามกระทรวง ทางใครทางมัน ตนจึงวอล์กเอาต์นี่คือความเป็นจริงของประเทศไทย และที่น่ากังวลคือวันนี้เรามีนายกรัฐมนตรี แต่ไม่รู้คนไหนตัวจริงส่วนคนดีมีความสามารถนิ่งเสียตำลึงทอง ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าคนไทยไม่มีความหวังไม่มี เมื่อจนไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ ย่อมเป็นเหยื่อของการปลุกปั่นเกลียดชังยุยงให้แตกแยก
“คนอย่างผมไม่มีใจบันดาลแรงนะ แต่ผมมีแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทย สร้างอนาคตให้ประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อตัวเอง สิ่งนี้มาจากความจริงใจของผม ยิ่งมาแข่งเยอะยิ่งดี ตั้งใจจะไม่ต่อล้อเถียงกับใคร ในระบอบนี้ต้องคิดต่าง แต่เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน”นายสมคิด กล่าวพร้อมย้ำถ้ามี ส.ส.คนไหนในพรรคที่เดินออกนอกลู่นอกทาง ทรยศอุดมการณ์ต้องขอใช้มติกรรมการบริหารพรรคไล่ออก
“ผมมาที่นี่ อย่าพูดไปเรื่อยๆ ว่าจะให้ผมเป็นนายกฯ เพราะการเป็นนายกฯ ฟ้าลิขิต แต่ผมพร้อมที่จะเป็นผู้นำให้พวกคุณ ฉะนั้น ถ้าหากว่ายอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ ผมพร้อมจะเป็นประธานพรรคให้ท่าน รับหรือไม่รับ” ทำให้ นายอุตตม นำสมาชิกลุกขึ้นตะโกนว่า “รับๆ” พร้อมตะโกนว่า “สมคิดๆๆๆ”
ต่อมา นายสมคิดให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดตัวร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ประเด็นพร้อมเป็นแคนดินายกรัฐมนตรี ของพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นกลไกในพรรค ขึ้นอยู่กับว่าเวลาเลือกตั้งมาถึงเมื่อไหร่ และพรรคพร้อมหรือไม่ แต่ส่วนตนพร้อมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ระบุว่า การเมืองเหมือนสนามม้า ที่ต้องซื้อม้าเข้าคอก พรรคสร้างอนาคตไทยจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เราจะพูดถึงอนาคต จะไม่พูดอดีต และไม่ขัดแย้งกับใคร พูดสิ่งที่เป็นจริง ทำในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง จะทำให้คนรุ่นหลังรู้คนการเมืองที่ดีทำได้ แม้จะลำบากไม่ต้องใช้เงินก็ทำได้ และอยากทำให้เป็นตัวอย่าง
เมื่อถามว่าพรรค สอท. พร้อมจะทำงานร่วมกับรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อีกหรือไม่ นายสมคิด ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าวและเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานยังพบ นายปองพล อดิเรกสาร พร้อมลูกชายคือ นายปรพล อดิเรกสาร มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังมีนายนวกิจ พลวิเศษ บุตรชายนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร